ให้เช่าที่ดินอย่างไรจะปลอดภัย
อสังหาริมทรัพย์อย่าง “ที่ดินเปล่า” สามารถทำประโยชน์ให้ผู้ถือครองมหาศาล ถ้า.... สามารถกำหนดขอบเขตที่น่าสนใจได้ ในเมื่อมีที่ดินอยู่ในมือก็ควรประเมินว่า จะลงทุนเองเป็นอาคารพาณิชย์หรือตึกแถวให้เช่า หรือจะทำเป็นห้องพักให้เช่า การทำประโยชน์แบบนี้ต้องมีเครดิตที่ดีเพื่อขอสินเชื่อ แต่ต้องดูด้วยว่างบประมาณมีเพียงพอหรือไม่ เพราะการขอสินเชื่อได้ไม่เต็มยอดที่ต้องการ การทำอาคารทั้งพาณิชย์และที่พักอาศัยต้องดูปัจจัยรอบนอกด้วย เช่น ใกล้ชุมชน ใกล้สถานพยาบาล หากเป็นที่ดินแปลงใหญ่หน่อยควรจะปล่อยให้เช่าที่ดินเปล่าดีกว่า โดยดำเนินการดังนี้
ประกาศให้เช่าที่ดินโดยกำหนดว่า ให้เช่าระยะยาวเท่านั้น (กฎหมายกม.แพ่งและพาณิชย์มาตรา 540 ระบุให้เช่าที่ดินเพียง 30 ปี) หากที่ดินอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวหรือจังหวัดที่ติดทะเล ควรมองหาผู้ลงทุนชาวต่างชาติเพราะมั่นใจได้ว่าได้เงินเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว
เมื่อได้ผู้เช่าที่ดินแล้ว ส่วนสำคัญคือการกำหนดสัญญาเช่าที่ดิน การเช่าที่ดินระยะยาวต้องจดทะเบียนการเช่าต่อหน้าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ เพราะสัญญาเช่าทั่วไปมีกำหนดตามกฎหมายเพียง 3 ปีเท่านั้น แม้ท่านจะระบุในหนังสือสัญญามากกว่า 3 ปีก็ไม่เป็นผล หากเกิดความเสียหายหรือการผิดสัญญาใดขึ้น การเรียกร้องความถูกต้องก็ยากแล้ว
ในการชำระค่าเช่าที่ดินควรให้ผู้เช่าชำระเงินเต็มจำนวนจะแน่นอนที่สุด หรือไม่ก็ตกลงกันว่าให้ผู้เช่าชำระเป็นรายปี โดยในหนังสือสัญญาต้องระบุชัดเจนว่า เช่าที่ดินเพื่อทำอะไร เช่น เพื่อทำโรงแรม เพื่อก่อสร้างอาคารพาณิชย์เป็นห้างร้าน โดยระบุด้วยว่าเมื่อครบกำหนดสัญญาสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ จะตกเป็นของผู้ให้เช่าที่ดิน (อาคาร, บ้านเรือน ที่โยกย้ายไม่ได้) และไม่ควรมีข้อสัญญา ในเรื่องของการให้สิทธิของผู้เช่าได้สิทธิซื้อที่ดินก่อนบุคคลอื่น ในกรณีที่ที่ดินดังกล่าวมีแนวโน้มจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้การร่างสัญญาเช่าที่ดินให้ปลอดภัยและรักษาผลประโยชน์ของผู้ให้เช่าที่ดินควรมีทนายความเป็นผู้ร่างสัญญาเช่า เพราะกฎหมายบางข้ออาจเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ควรให้ผู้ชำนาญการเป็นคนรักษาสิทธิประโยชน์ของคุณดีกว่า