ตัวกรอง
89,735 ผลลัพธ์

ขายคอนโดในประเทศไทย โครงการใหม่และโครงการมือสอง

Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
1 / 20
฿9,960,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ98.53 ตรม.คอนโด
วอร์เตอร์มาร์ค เจ้าพระยา ริเวอร์ — บางลำภูล่าง, คลองสาน, กรุงเทพมหานคร
พร้อมเข้าชม ติดต่อเราตอนนี้! ยูนิตหรูวิวเปิดโล่ง วิวแม่น้ำเจ้าพระยา | 2 ห้องนอน เฟอร์ครบ | Watermark
สัมผัสการอยู่อาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาระดับลักชัวรี่กับคอนโด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ชั้น 24 ที่โครงการ Watermark Chaophraya หนึ่งในคอนโดสุดพรีเมียมริมแม่น้...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
1 / 11
฿5,600,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ56.79 ตรม.คอนโด
ไอดีโอ โมบิ พระราม 9 — ห้วยขวาง, ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร
ขาย/เช่า คอนโด ไอดิโอโมบิ พระราม 9
𝗣𝗿𝗼𝗷𝗲𝗰𝘁 : IDEO Mobi Rama9  𝗧𝘆𝗽𝗲 : 2 Bedroom 2 Bathroom  𝗦𝗶𝘇𝗲 : 57 SQM.   𝗙𝗹𝗼𝗼𝗿 : 9  𝗟𝗼𝗰𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 : MRT พระราม9 ระยะเดินได้ สิ่งอำ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
1 / 6
฿2,500,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ32 ตรม.คอนโด
ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ The Proud Rawai Condominium
The Proud Condominium คอนโดมิเนียมสุดหรู สไตล์โรแมนติก ใกล้หาดราไวย์ แหลมพรหมเทพ และหาดในหาน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ ของจังหวัดภูเก็ต สัม...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
1 / 5
฿3,000,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ24 ตรม.คอนโด
พระโขนง, คลองเตย, กรุงเทพมหานคร
ติดต่อเราตอนนี้! ห้องพร้อมผู้เช่า โมดิซ สุขุมวิท 50 | 1 ห้องนอน 24 ตร.ม. สัญญาเช่าถึง พ.ย. 2026
โอกาสดีสำหรับนักลงทุน! คอนโด 1 ห้องนอนตกแต่งครบ ที่ Modiz Sukhumvit 50 มาพร้อม ผู้เช่าปัจจุบัน สร้างรายได้ทันทีตั้งแต่วันแรกยูนิตตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ขน...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
1 / 8
฿6,500,000
2 ห้องนอน1 ห้องน้ำ55.15 ตรม.คอนโด
วาลเด้น อโศก — คลองเตยเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
พร้อมเข้าชม ติดต่อเราตอนนี้! ดูเพล็กซ์หายากในอโศก 2 ห้องนอน 55 ตร.ม. ที่ Walden Asoke
สัมผัสการอยู่อาศัยที่ผสมผสานความเป็นส่วนตัวและดีไซน์ทันสมัยกับคอนโด ดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน ที่ Walden Asoke โครงการโลว์ไรส์ใจกลางอโศกยูนิตตั้งอยู่ที่ ชั้...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
1 / 7
฿6,100,000
2 ห้องนอน1 ห้องน้ำ102 ตรม.คอนโด
กมลา รีเจนท์ คอนโด — กมลา, กะทู้, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ กมลา รีเจนท์ คอนโด
Kamala Regent คอนโดมิเนียม Low Rise ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ เพื่อการลงทุน เพื่อการพักผ่อนระยะสั้น หรือการอยู่อาศัยระยะยาว อีกหนึ่งเซอร์วิสอ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
1 / 16
฿4,590,000
2 ห้องนอน1 ห้องน้ำ38.80 ตรม.คอนโด
ควินทารา ภูม สุขุมวิท 39 — คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโดใจกลางสุขุมวิท 39 พร้อมพงษ์ Quintaraphume
ขายคอนโด Quintara Phume สุขุมวิท 39 📍ใจกลางสุขุมวิท ทำเลทอง เดินทางสะดวก ห้องเลขมงคล เสริมโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความก้าวหน้า วิวหลักล้าน วิวสวน สระว...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
1 / 11
฿10,200,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ49.50 ตรม.คอนโด
แอชตัน สีลม — สุริยวงศ์, บางรัก, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ แอชตัน สีลม
Ashton Silom (แอชตัน สีลม)โครงการสุดหรู ความสมบูรณ์ที่ครบครัน บนทำเลใจกลางเมือง ติดถนนสีลม ย่านแห่งความเจริญทางธุรกิจ "Real CBD" รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนว...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
1 / 5
฿2,600,000
สตูดิโอ1 ห้องน้ำ27.30 ตรม.คอนโด
โค้บบ์ รัชดา-พระราม 9 — ห้วยขวาง, ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด สตูดิโอ ในโครงการ โค้บบ์ รัชดา-พระราม 9
โค้บบ์ รัชดา-พระราม9 เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ไม่ซ้ำใครที่เฉลิมฉลองความเป็นปัจเจกบุคคลและโอบกอดความคิดสร้างสรรค์ ในฐานะส่วนหนึ่งของ CO-BEING COMMUNIT...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
1 / 15
฿2,000,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ34.22 ตรม.คอนโด
ลา ซานเทีย — เมืองพัทยา, พัทยา, ชลบุรี
ขายคอนโดลา ซานเทียร์
ขายคอนคอนโด ลา ซานเทียร์  ชั้น 4 ห้อง 34.23 ตร.ม.วิวสระว่ายน้ำ ราคาขาย 2,000,000 บาท ค่าส่วนกลางรวมจอดรถ = 12.323 ปี ของแถม : เฟอร์นิเจอร์ตามรูป,...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
1 / 6
฿4,300,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ100 ตรม.คอนโด
ทิว ริเวอร์ เพลส — บางยี่ขัน, บางพลัด, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ทิว ริเวอร์ เพลส
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 100 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ ทิว ริเวอร์ เพลส บนทำเลของ บางยี่ขัน, กร...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
1 / 9
฿6,250,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ34.50 ตรม.คอนโด
คัลเจอร์ ทองหล่อ — คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ คัลเจอร์ ทองหล่อ
ขายดาวน์ Culture Thonglor โดย Ananda   คอนโดใหม่พร้อมอยู่ ติดโรงแรม Intercon, ตรงข้ามตึก T-One สามารถเดินได้สะดวกจากสถานี BTS ทองหล่อโดยใช้ skywa...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
1 / 9
฿850,000
สตูดิโอ1 ห้องน้ำ28 ตรม.คอนโด
เอื้ออมรสุข — บางกะปิ, ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด สตูดิโอ ในโครงการ เอื้ออมรสุข
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย แบบ สตูดิโอ มีพื้นที่ใช้สอย 28 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ เอื้ออมรสุข บนทำเลของ บางกะปิ, กรุงเทพมหานคร...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
1 / 18
฿26,000,000
3 ห้องนอน2 ห้องน้ำ72 ตรม.คอนโด
พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ — คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 3 ห้องนอน ในโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ
โครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ (Park Origin Thonglor) ทองหล่อ ซอย 10  ▶️พร้อมเข้าอยู่  20  ธันวาคม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  1 ห้องครัว...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
1 / 13
฿2,684,211
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ53.80 ตรม.คอนโด
น้ำทะเล คอนโด — นาจอมเทียน, สัตหีบ, ชลบุรี
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ น้ำทะเล คอนโด
Nam Talay Condo (น้ำทะเล คอนโด)ค้นพบประสบการณ์พักผ่อนไปกับ "น้ำทะเล คอนโด" โครงการที่พักอาศัยใจกลางย่านชุมชนที่มีศักยภาพ บนทำเลที่เงียบสงบของนาจอมเทีย...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
1 / 18
฿1,750,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ27 ตรม.คอนโด
อาคาเดีย บีช รีสอร์ท — เมืองพัทยา, พัทยา, ชลบุรี
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ อาคาเดีย บีช รีสอร์ท
เปิดประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่าได้ที่ Arcadia Beach Resort โครงการคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองพัทยา ที่สามารถตอบโจทย์การอยู...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
1 / 8
฿1,350,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ23 ตรม.คอนโด
อัสสกาญจน์เพลส ศรีนครินทร์ — สวนหลวง, สวนหลวง, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ อัสสกาญจน์เพลส ศรีนครินทร์
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย ขนาด 1 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 23 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ อัสสกาญจน์เพลส ศรีนครินทร์ บนทำเลของ สวนห...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
1 / 5
฿3,290,000
สตูดิโอ1 ห้องน้ำ20 ตรม.คอนโด
แกรนด์ โซแลร์ พัทยา — เมืองพัทยา, พัทยา, ชลบุรี
ขายคอนโด สตูดิโอ ในโครงการ แกรนด์ โซแลร์ พัทยา
Grand Solaire Pattaya (แกรนด์ โซแลร์ พัทยา) มิติใหม่ของลักช์ชัวรี่คอนโดมิเนียม ที่บ่งบอกถึงความหรูหราขั้นสุด มาพร้อมทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวพัทยา เกาะ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
1 / 6
฿6,900,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ44.56 ตรม.คอนโด
วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน — หนองแก, หัวหิน, ประจวบคีรีขันธ์
Veranda Hua Hin (Pool Access)
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย ขนาด 1 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 44.56 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน บนทำเลของ หน...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
1 / 7
฿4,995,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ62 ตรม.คอนโด
ดุสิต แกรนด์ พาร์ค 2 — เมืองพัทยา, พัทยา, ชลบุรี
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ดุสิต แกรนด์ พาร์ค 2
โครงการ "ดุสิต แกรนด์ พาร์ค 2" ให้ความหรูหราตั้งแต่ประตูทางเข้าโครงการ ไปจนถึงประตูหน้าห้องคุณ ด้วยโครงการมาพร้อมการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น อาคารสูงโอบล้อ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
1 / 6
฿4,500,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ55.02 ตรม.คอนโด
เดอะ ลิฟวิ่น รามคำแหง — หัวหมาก, บางกะปิ, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ เดอะ ลิฟวิ่น รามคำแหง
เดอะ ลิฟวิ่น รามคำแหง ยินดีต้อนรับสู่ เดอะ ลีวิน รามคำแหง โครงการที่พักอาศัยอันยอดเยี่ยมที่ตั้งอยู่ในย่านหัวหมาก บางกะปิ อาคารสูง 42 ชั้นแห่งนี้มีหน่ว...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
1 / 5
฿3,800,000
2 ห้องนอน1 ห้องน้ำ70 ตรม.คอนโด
แคสเซีย — สำโรงเหนือ, เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ แคสเซีย
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 70 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ แคสเซีย บนทำเลของ สำโรงเหนือ, สมุทรปราการ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
1 / 8
฿3,350,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ29.61 ตรม.คอนโด
เซอริโอ้ สุขุมวิท 50 — พระโขนง, คลองเตย, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ เซอริโอ้ สุขุมวิท 50
เซอริโอ้ สุขุมวิท 50 (Serio Sukhumvit 50)ปลดพันธนาการความจำเจแบบเดิม ๆ สู่การใช้ชีวิตในโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าอยู่มากกว่าที่เคยไปกับ "เซลิโอ สุขุมวิ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
1 / 14
฿5,066,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ34 ตรม.คอนโด
วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ — บางจาก, พระโขนง, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์
Whizdom Essence (วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์)Whizdom Essence (วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์) พร้อมนำคุณสู่อีกขั้นของการใช้ชีวิตใจกลางเมืองสุขุมวิท กับคอนโดมิเนียมสุดหรูที...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
1 / 11
฿9,400,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ64.45 ตรม.คอนโด
ไลฟ์ อโศก ไฮป์ — มักกะสัน, ราชเทวี, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ไลฟ์ อโศก ไฮป์
เปิดมิติใหม่แห่งการใช้ชีวิตใจกลางมหานคร โครงการสุดอลังการย่านอโศกจาก AP (Thailand) คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร สูงถึง 40 ชั้น ออกแบบอาคารรูปตัวแอล...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
1 / 15
฿6,816,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ45.44 ตรม.คอนโด
วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ — บางจาก, พระโขนง, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์
Whizdom Essence (วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์)Whizdom Essence (วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์) พร้อมนำคุณสู่อีกขั้นของการใช้ชีวิตใจกลางเมืองสุขุมวิท กับคอนโดมิเนียมสุดหรูที...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
1 / 11
฿6,900,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ45.52 ตรม.คอนโด
วีธารา สุขุมวิท 36 — คลองตัน, คลองเตย, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ วีธารา สุขุมวิท 36
Vtara Sukhumvit 36ในโลกแห่งการใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัด กับความทันสมัยที่ขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา กับความศิวิไลซ์ของเมืองกรุง พบกับคอนโดมิเนียมตอบโจทย์ไล...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
1 / 9
฿9,900,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ60.57 ตรม.คอนโด
ถนนพญาไท, ราชเทวี, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ Villa Rachatewi
สัมผัสและดื่มด่ำกับการใช้ชีวิตในใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครได้ที่ Villa Rachatewi (วิลล่า ราชเทวี) โครงการคอนโดมิเนียมที่จะให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การเด...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
1 / 16
฿35,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ75 ตรม.คอนโด
ดิ แอ๊กซิส — เมืองพัทยา, พัทยา, ชลบุรี
คอนโด The Axis ให้เช่าและขาย – วิวทะเล
คอนโด The Axis ให้เช่าและขาย – วิวทะเล ทำเล: ถนนทัพพระยา พัทยา ขนาด 75 ตารางเมตร 2 ห้องนอน | 2 ห้องน้ำ ห้องมุม วิวทะเล พร้อมอ่างจากุซซี่ เฟอร์นิเจอร...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
1 / 10
฿4,100,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ35 ตรม.คอนโด
ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต — บางนา, บางนา, กรุงเทพมหานคร
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ในโครงการ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต
ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต (Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate) คอนโดมิเนียมไฮไรส์ระดับพรีเมียม พร้อมย้ายเข้าอยู่อาศัยแล้ววันนี้ โครงการติดบนถนนสุขุมวิท...
แสดงผลลัพธ์ 1 - 30, หน้า 1 จากทั้งหมด 333 หน้า

เจาะลึกตลาดการขายคอนโด ปี 2567-2568

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวของตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2567-2568 หลังผ่านวิกฤตโรคระบาดและเศรษฐกิจซบเซาช่วงก่อนหน้า โดยผู้พัฒนาอสังหาฯ และผู้ซื้อกลับมาเคลื่อนไหวอย่างคึกคักอีกครั้ง ในบทความนี้เราจะวิเคราะห์ ภาพรวมตลาดคอนโด ในช่วงปี 2567-2568 พร้อมเปรียบเทียบราคาและแนวโน้มรายทำเลที่สำคัญทั่วไทย นำเสนอ Buyer Persona ของผู้ซื้อคอนโดกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงเจาะจงข้อดี-ข้อเสียของคอนโดตามขนาดและรูปแบบที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีตารางเปรียบเทียบราคาคอนโดในทำเลสำคัญ (กรุงเทพฯ, พัทยา, เชียงใหม่, ภูเก็ต, หัวหิน, เกาะสมุย) เพื่อให้เห็นภาพรวมของระดับราคาในแต่ละพื้นที่ และปิดท้ายด้วยการวิเคราะห์ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงตอบคำถามยอดนิยมที่เกี่ยวข้อง เช่น คอนโดสำหรับขาย, ซื้อคอนโดในกรุงเทพ, คอนโดราคาถูก และ คอนโดใกล้รถไฟฟ้า โดยสรุปข้อมูลเชิงลึกที่ผู้อ่านควรรู้

ภาพรวมตลาดคอนโดปี 2567-2568

ตลาดคอนโดมิเนียมไทยในช่วงปี 2567-2568 มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนแต่ยังเผชิญความท้าทายหลายด้าน การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดทั่วประเทศตลอดปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 107,456 หน่วย ลดลงเล็กน้อยประมาณ -0.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทว่าในปี 2568 คาดว่าการโอนคอนโดจะกลับมาเพิ่มขึ้นราว +1.5% ที่ประมาณ 109,080 หน่วย สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งประกาศใช้ในปี 2568 และขยายไปถึงกลางปี 2569 มาตรการนี้ช่วยลดต้นทุนการซื้อและกระตุ้นตลาดในกลุ่มคอนโดระดับกลาง-ล่างได้มากขึ้น

ปัจจัยบวกสำคัญ คือภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาไทยกว่า 12 ล้านคนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 5.83 แสนล้านบาท โดยเฉพาะ เมืองท่องเที่ยวชายทะเล อย่างภูเก็ต พัทยา และหัวหินได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ กลับมาคึกคักจนเกิดปรากฏการณ์ว่า ซัพพลายคอนโดเปิดขายใหม่ในภูเก็ตและพัทยาช่วงต้นปี 2567 สูงกว่ากรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่ารวม ผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพฯ ต่างเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่เหล่านี้อย่างคึกคัก และหลายโครงการสามารถปิดการขายได้รวดเร็ว โดยมี กำลังซื้อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซียเข้ามาดูดซับยูนิตจำนวนมาก รายงานระบุว่าในช่วงไตรมาสแรกปี 2567 มีคอนโดใหม่เปิดตัวรวมกันประมาณ 8,500 ยูนิต ในสามพื้นที่หลัก (ภูเก็ต, พัทยา, หัวหิน) และชาวต่างชาติซื้อจนเต็มโควต้า 49% ในหลายโครงการหรู แสดงถึงแรงซื้อจากต่างชาติที่กลับมาอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบและความท้าทาย ยังคงมีอยู่ ได้แก่ ภาวะหนี้ครัวเรือนสูงและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อกลุ่มชนชั้นกลาง-ล่างยังเปราะบาง การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยถูกปฏิเสธมากขึ้นเพราะธนาคารเข้มงวดการปล่อยกู้ ผู้กู้ต้องแบกรับค่างวดสูงขึ้นจากดอกเบี้ยที่ยังอยู่ระดับสูง นอกจากนี้ ภาวะอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) โดยเฉพาะคอนโดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยังเป็นปัญหาเรื้อรัง มีสต็อกห้องชุดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่ยังขายไม่ออกจำนวนมากสะสมจากช่วงก่อนหน้า แม้ผู้ประกอบการจะชะลอการเปิดโครงการใหม่ แต่ก็ยังต้องเร่งระบายสต็อกเดิมด้วยการทำโปรโมชั่นลดราคา/แจกเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งกดดันให้การแข่งขันด้านราคายังคงสูง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ตลาดคอนโดในบางพื้นที่ยัง เป็นตลาดของผู้ซื้อ ที่มีอำนาจต่อรองราคาได้ แต่ในบางพื้นที่ที่ดีมานด์แรงสวนทางซัพพลายจำกัด (เช่น เมืองท่องเที่ยว) กลับกลายเป็น ตลาดของผู้ขาย มากขึ้นในระยะนี้

เมื่อมองไปข้างหน้า แนวโน้มปี 2568 มีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะปรับสมดุลดีขึ้น ภาพรวมเศรษฐกิจที่รัฐบาลชุดใหม่พยายามกระตุ้น (เช่น นโยบายดึงดูดชาวต่างชาติย้ายถิ่นฐาน, การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ต่อเนื่อง) จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ อีกทั้ง กลุ่มผู้ซื้อที่ยังมีกำลัง เช่น ชาวต่างชาติ, นักลงทุนไทยรายใหญ่ และกลุ่ม Gen Y ที่มีรายได้สูง ยังเดินหน้าซื้ออสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอสังหาฯ เพื่อการลงทุนและบ้านหลังที่สอง เช่น คอนโดมิเนียมและวิลล่าในเมืองท่องเที่ยวซึ่งให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น (เพราะสามารถปล่อยเช่าได้ค่าเช่าสูง) ยังคงเป็นเซกเมนต์ที่ร้อนแรง สะท้อนจากมูลค่าการโอนและให้เช่าอสังหาฯ ในภูเก็ตปี 2567 ที่ทะลุ 5.5 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นมากจากปีก่อน ด้วยแรงหนุนของดีมานด์ระดับลักชัวรีทั้งจากคนไทยฐานะดีและเศรษฐีต่างชาติ นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐ อย่างโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ในกรุงเทพฯ การพัฒนาเขต EEC (Eastern Economic Corridor) และโครงสร้างพื้นฐานในหัวเมือง เช่น รถไฟทางคู่และมอเตอร์เวย์ ไปจนถึงโครงการขยายสนามบินและท่าเรือในจังหวัดท่องเที่ยว จะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยผลักดันความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะกลางถึงยาว

สรุปได้ว่าตลาดคอนโดไทย 2567-2568 กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่การฟื้นตัวเต็มที่ โดยมีสัญญาณบวกจากภาคท่องเที่ยวและกำลังซื้อระดับบน/ต่างชาติ ขณะเดียวกันยังต้องบริหารความเสี่ยงจากหนี้ครัวเรือนสูงและสต็อกล้นตลาดในบางส่วน ผู้ประกอบการหลายรายปรับกลยุทธ์ไปลงทุนเปิดโครงการใน ทำเลศักยภาพต่างจังหวัด ที่ดีมานด์สูงแทนตลาดกรุงเทพฯ ที่เริ่มอิ่มตัว ส่วนผู้ซื้อก็ได้รับโอกาสจากมาตรการรัฐและโปรโมชันส่วนลดมากมาย ทำให้ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ลงทุนสามารถเลือกซื้อคอนโดได้อย่างคุ้มค่า หากศึกษาข้อมูลและแนวโน้มอย่างรอบด้าน

ราคาและแนวโน้มคอนโดมิเนียมตามทำเล (กรุงเทพฯ vs ต่างจังหวัด)

ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทั้งราคาและศักยภาพการลงทุนของคอนโด บทนี้เราจะเปรียบเทียบ ตลาดคอนโดในทำเลสำคัญ ของไทย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (เมืองหลวงที่มีความต้องการอยู่อาศัยสูงสุด), พัทยา (เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุง), ภูเก็ต (เกาะท่องเที่ยวระดับโลก), เชียงใหม่ (เมืองศูนย์กลางภาคเหนือ), หัวหิน (เมืองพักตากอากาศชายทะเลใกล้กรุง) และ เกาะสมุย (เกาะท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง) โดยจะกล่าวถึงทั้งระดับราคาเฉลี่ย แนวโน้มราคา ผลตอบแทนการลงทุน (เช่นค่าเช่า) ตลอดจนปัจจัยเฉพาะของแต่ละตลาด

ตลาดคอนโดกรุงเทพฯ ปี 2567-2568

กรุงเทพมหานคร ยังคงเป็นตลาดคอนโดที่ใหญ่และหลากหลายที่สุดในประเทศ ครึ่งแรกของปี 2567 ตลาดยังอยู่ในภาวะระมัดระวัง ผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการใหม่บางส่วน แต่ยังมีดีมานด์หนุนในทำเลที่มีโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ อย่างแนวรถไฟฟ้าที่ขยายออกไปสู่ชานเมือง สำหรับระดับราคา คอนโดในกรุงเทพฯมีความแตกต่างกันมากตามทำเลและระดับโครงการ - คอนโดระดับแมสที่ชานเมืองหรือโครงการเก่าอาจมีราคาเพียง 50,000-70,000 บาท/ตร.ม. ในขณะที่คอนโดระดับกลางในทำเลยอดนิยมจะอยู่ราว 100,000-150,000 บาท/ตร.ม. ส่วนคอนโดหรูในย่านใจกลางเมือง (CBD) อาจสูงถึง 200,000-300,000 บาท/ตร.ม. หรือมากกว่า (มีตัวอย่างที่ทำสถิติซื้อขายถึง 1,000,000 บาท/ตร.ม. ในโครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี) นอกจากนี้ปี 2566-2567 ยังมีโครงการแบรนด์ระดับโลก (Branded Residences) เปิดตัวในกรุงเทพฯหลายแห่ง ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้งเศรษฐีไทยและต่างชาติ ซึ่งมักตั้งราคาสูงกว่าคอนโดทั่วไปแต่แลกมาด้วยบริการและคุณภาพเหนือระดับ

แนวโน้มราคา คอนโดกรุงเทพฯโดยรวมทรงตัวถึงปรับขึ้นเล็กน้อยในช่วงปี 2567 สาเหตุเพราะผู้ประกอบการปรับตัวลดการเปิดโครงการใหม่ ทำให้ซัพพลายใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยลง ขณะที่ต้นทุนพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น ~5-10% (จากค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่สูงขึ้น) ส่งผลให้ราคาขายโครงการเปิดตัวใหม่ๆ มักสูงกว่าโครงการเดิมในละแวกเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ซื้อระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ผู้พัฒนาจึงต้องเน้นเพิ่ม “ความคุ้มค่า” ให้โครงการ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบห้องให้มีฟังก์ชันใช้สอยลงตัว หรือจัดโปรโมชั่นของแถมและส่วนลดเพื่อดึงดูดลูกค้า ดังนั้นราคาขายจริงหลายแห่งจึงต่อรองได้พอสมควร โดยเฉพาะตลาดคอนโดมือสองในกรุงเทพฯที่มีตัวเลือกหลากหลาย ผู้ซื้อที่มองหาคอนโดอยู่อาศัยเองจึงสามารถต่อรองราคาหรือมองหาห้องรีเซลสภาพดีในราคาที่ถูกลงจากราคาป้ายโครงการ

ผลตอบแทนการลงทุน (ค่าเช่า) ของคอนโดกรุงเทพฯเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ประมาณ 3-5% ต่อปี ขึ้นกับทำเลและประเภทผู้เช่า คอนโดย่านใจกลางเมืองปล่อยเช่าชาวต่างชาติหรือคนทำงานเงินเดือนสูงอาจได้ yield ~5% ขึ้นไป ขณะที่คอนโดชานเมืองปล่อยเช่าคนทำงานทั่วไป yield อาจอยู่ราว 3% บวกลบ จุดเด่นของการลงทุนคอนโดในกรุงเทพฯคือ ตลาดเช่ามีเสถียรภาพ เพราะมีดีมานด์เช่าจากทั้งคนไทยต่างจังหวัดที่มาทำงาน/เรียนในเมือง และชาวต่างชาติที่มาทำงานประจำ (Expats) อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โอกาสเก็งกำไรขายต่อ ก็มีในโครงการใหม่ทำเลศักยภาพหรือโครงการใกล้รถไฟฟ้าที่เปิดใช้ในอนาคต โดยจากสถิติที่ผ่านมา คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายใหม่เมื่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว ราคามักปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงพรีเซล อย่างไรก็ดี ด้วยสภาวะตลาดปัจจุบัน นักลงทุนควรเลือกทำเลที่มีปัจจัยบวกชัดเจน (เช่น ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ หรือใกล้มหาวิทยาลัย/โรงพยาบาล) และอาจเน้นลงทุนระยะกลาง-ยาวมากกว่าการเก็งกำไรระยะสั้น

ภาพรวมตลาด: กรุงเทพฯมีสต็อกคอนโดคงเหลือขายอยู่พอสมควร (โดยเฉพาะห้องระดับราคา 2-5 ล้านบาทในทำเลทั่วไป) ทำให้ผู้ซื้อมีทางเลือกและอำนาจต่อรองสูง ผู้ประกอบการบางรายหันไปพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้นในช่วงนี้ แต่คอนโดก็ยังเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยหลักของคนเมืองรุ่นใหม่ที่ต้องการอยู่ใกล้ที่ทำงาน/รถไฟฟ้า ดังนั้นโครงการที่อยู่ ใกล้รถไฟฟ้า, ใกล้แหล่งงาน/ห้างสรรพสินค้า, หรือมีจุดขายเฉพาะตัว ยังสามารถขายได้ดี ในปี 2568 หากอัตราดอกเบี้ยทรงตัวหรือปรับลดลงเล็กน้อย ประกอบกับมาตรการ LTV ผ่อนคลายและค่าธรรมเนียมโอนต่ำ ยังมีอยู่ ก็จะช่วยให้ตลาดคอนโดกรุงเทพฯเริ่มกลับมาคึกคัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้ออยู่เองที่รอจังหวะเหมาะ ส่วนกลุ่มนักลงทุนอาจยังเลือกลงทุนในคอนโดกรุงเทพฯบางทำเลที่มองว่า “ยังไม่แพงเกินไป” หรือมีโอกาสปรับตัว เช่น คอนโดตามแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าที่เพิ่งเปิด (สายสีเหลือง สีชมพู) หรือคอนโดใกล้โครงการเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐ (เช่น ย่านบางซื่อ-จตุจักรที่มีโครงการมิกซ์ยูสและศูนย์คมนาคมใหญ่) ทำเลเหล่านี้ยังมีช่องว่างในการเติบโตของราคาเมื่อพื้นที่โดยรอบพัฒนาเต็มที่ในอนาคต

ตลาดคอนโดพัทยา ปี 2567-2568

พัทยา จังหวัดชลบุรี ถือเป็นตลาดคอนโดตากอากาศที่สำคัญและได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว พัทยาอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ (ขับรถ ~1.5-2 ชม.) ทำให้เป็นเป้าหมายของทั้งนักลงทุนและผู้ซื้อบ้านพักตากอากาศชาวไทย รวมถึงเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติทั้งเพื่อท่องเที่ยวและพำนักระยะยาว ในช่วงปี 2566-2567 ตลาดคอนโดพัทยากลับมาคึกคัก ผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพฯ เข้ามาลงทุนเปิดโครงการใหม่มากขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มตลาดในระยะกลาง-ยาว และพบว่า หลายโครงการมียอดขายดี (take-up rate สูง) โดยเฉพาะโครงการระดับไฮเอนด์ติดทะเลที่กลุ่มลูกค้าต่างชาติให้ความสนใจมากจนมียอดขายโควตาต่างชาติเต็มเกือบทุกโครงการ

ระดับราคา คอนโดพัทยามีตั้งแต่ราคาย่อมเยาว์ไปจนถึงหรูหรา แล้วแต่ทำเลและประเภทโครงการ คอนโดมิเนียมมือสองหรือโครงการสร้างมานานในโซนรอบนอกสามารถหาได้ในราคา ต่ำกว่า 50,000 บาท/ตร.ม. (บางยูนิตราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1 ล้านบาท) ส่วนโครงการใหม่ระดับกลาง-บนในทำเลยอดนิยม เช่น พัทยาเหนือ-นาเกลือ (วงศ์อมาตย์) ซึ่งเป็นทำเลใกล้ทะเลและชุมชนคุณภาพ ราคาขายส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 80,000-120,000 บาท/ตร.ม. หรือราว 2-5 ล้านบาทต่อยูนิต สำหรับห้องขนาดสตูดิโอถึง 2 ห้องนอน และมีบางโครงการระดับลักชัวรีติดหาดที่ราคาสูงกว่า 150,000 บาท/ตร.ม. เช่น โครงการระดับหรูที่เปิดตัวใหม่ (ตัวอย่างเช่น Arom Wongamat - อารมณ์ วงศ์อมาตย์ ที่มียูนิตหรูติดทะเลราคาตารางเมตรละ ~260,000 บาท) แนวโน้มราคา ในพัทยาอยู่ในช่วงขาขึ้นหลังโควิด จากข้อมูลก่อนหน้า คอนโดโซนพัทยาเหนือ-วงศ์อมาตย์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 5-7% ในระยะไม่นาน เนื่องจากดีมานด์ทั้งไทยและต่างชาติที่กลับมาสูง ขณะที่ซัพพลายใหม่ระดับคุณภาพมีจำนวนจำกัด นอกจากนี้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ในพื้นที่ EEC เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, การขยายสนามบินอู่ตะเภา และมอเตอร์เวย์เส้นใหม่ๆ จะยิ่งส่งเสริมความน่าสนใจของอสังหาฯ พัทยาในอนาคต ทำให้ผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยมองว่าราคาคอนโดพัทยาปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ “คุ้มค่า” เมื่อเทียบกับศักยภาพที่จะเติบโต

ผู้ซื้อและผู้เช่าในตลาดพัทยา มีความหลากหลาย แบ่งเป็นสองกลุ่มหลักคือ ชาวไทย และ ชาวต่างชาติ โดย ผู้ซื้อชาวไทย มีทั้งกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อคอนโดปล่อยเช่าระยะยาวให้คนทำงานในพื้นที่หรือเช่าระยะสั้นช่วงท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มที่ซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ/บ้านหลังเกษียณเพื่อตนเอง ซึ่งคนไทยมักให้ความสำคัญกับขนาดห้องคุ้มราคา บางครอบครัวเลือกห้อง 2 ห้องนอนขึ้นไปเพื่อความสะดวกสบาย ทำเลที่คนไทยนิยม จะเป็นบริเวณที่ไม่จอแจเกินไป มีความสงบและเดินทางสะดวก เช่น โซนพัทยากลางที่ใกล้โรงเรียนและห้าง หรือคอนโดฝั่งหาดจอมเทียนที่บรรยากาศสงบเหมาะกับครอบครัว ส่วน ผู้ซื้อชาวต่างชาติ เป็นแรงขับเคลื่อนหลักในพัทยาช่วงหลัง ชาติที่โดดเด่นคือ จีน (ลงทุนต่อเนื่อง), รัสเซีย (หาบ้านพักอากาศหรือย้ายมาพำนักระยะยาว) และชาวยุโรป-อเมริกัน (โดยเฉพาะผู้เกษียณ) ซึ่งมองว่าค่าครองชีพไทยไม่สูง อากาศดี ต่างชาติสามารถถือครองคอนโดไทยได้ 100% (Freehold) แต่จำกัดสัดส่วนต่างชาติไม่เกิน 49% ต่ออาคาร ทำให้โครงการฮิตๆ มักขายโควตาต่างชาติหมดเร็ว (เคยมีกรณีโควตาต่างชาติเต็มภายในไม่กี่ชั่วโมง) ผู้สนใจจึงควรรีบตัดสินใจและตรวจสอบโควตากับโครงการ ต่างชาติให้ความสำคัญกับวิวและทำเลมาก - คอนโดติดหาดหรือเห็นวิวทะเลจะขายดีกว่าอย่างมาก และต้องการผู้พัฒนาที่น่าเชื่อถือ คุณภาพงานก่อสร้างดี เพราะหลายคนไม่ได้อยู่ไทยตลอด ต้องมั่นใจว่าทรัพย์สินมีการดูแล (โครงการที่มีบริการครบวงจร เช่น มีบริษัทรันการเช่า, นิติบุคคลสื่อสารอังกฤษคล่อง จะดึงดูดต่างชาติเป็นพิเศษ)

ผลตอบแทนการลงทุน ในพัทยาถือว่าน่าสนใจ ทั้งในแง่ค่าเช่าและกำไรขายต่อ ด้าน Rental Yield ปล่อยเช่า ระดับค่าเช่าเฉลี่ยของคอนโดพัทยาอยู่ราว 5-7% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าคอนโดในกรุงเทพฯ เนื่องจากมีดีมานด์เช่าจากทั้งชาวต่างชาติระยะยาวและนักท่องเที่ยวระยะสั้น โดยบางโครงการนำเสนอการันตีค่าเช่า 5-7% ต่อปีในช่วง 2-5 ปีแรก เพื่อจูงใจนักลงทุนด้วย หากผู้ซื้อเข้าร่วมโปรแกรมเหล่านี้ก็จะได้รับ ROI ช่วงแรกตามที่กำหนด ถือเป็นจุดขายที่ดี นอกจากนี้ ในระยะยาวยังมีโอกาสได้กำไรจากการขายต่อ (Capital Gain) เพราะแนวโน้มราคาในทำเลศักยภาพพัทยาเป็นขาขึ้นดังที่กล่าวไป ดังนั้นการลงทุนคอนโดปล่อยเช่าในพัทยาจึงนับว่าน่าสนใจกว่าหลายพื้นที่ แต่ทั้งนี้นักลงทุนต้องเลือกทำเลและโครงการอย่างพิถีพิถัน เนื่องจากปัจจุบันยังมีบางโซนที่ซัพพลายคอนโดเหลือขายอยู่ การเลือกโครงการที่มีศักยภาพจริง (ใกล้ทะเล ใกล้แหล่งชุมชนคุณภาพ หรือมีจุดขายเด่นชัด) จะเป็นหัวใจสำคัญให้การลงทุนประสบความสำเร็จ

ตลาดคอนโดภูเก็ต ปี 2567-2568

ภูเก็ต เป็นตลาดคอนโดมิเนียมที่เติบโตร้อนแรงที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2567 การท่องเที่ยวภูเก็ตกลับมาคึกคักเต็มที่ โดยปี 2566 ที่ผ่านมา ภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 8.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 150% จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยเพื่อพักผ่อนเพิ่มสูงขึ้นมาก ผู้พัฒนาอสังหาฯ ทั้งรายใหญ่จากส่วนกลางและผู้ประกอบการท้องถิ่นต่างเปิดตัว คอนโดใหม่ในภูเก็ตจำนวนมาก เพื่อรองรับนักลงทุนและผู้ซื้อไทย-ต่างชาติที่หลั่งไหลกลับมา ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ (REIC) ระบุว่าเฉพาะช่วงครึ่งหลังปี 2567 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในภูเก็ตประมาณ 10,600 หน่วย (เพิ่มขึ้นเกือบ 80% YoY) และยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่ 7,400 หน่วย (เพิ่มขึ้น 72% YoY) ตัวเลขนี้สะท้อนว่าภูเก็ตกำลังเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจอย่างมากจนผู้ประกอบการแห่เปิดโครงการ และผู้ซื้อก็กลับมาแย่งซื้อจนยอดขายพุ่ง

ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่ตลาดอสังหาฯ พึ่งพาคอนโดมิเนียมสูงมาก (คิดเป็นกว่า 90% ของมูลค่าที่อยู่อาศัยทั้งหมดในจังหวัด ณ ปี 2567) เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งซื้อไว้พักผ่อนและลงทุนปล่อยเช่า โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติที่นิยมซื้อคอนโดมากกว่าบ้านแนวราบ (เพราะติดข้อจำกัดด้านกฎหมายการถือครองที่ดิน) แรงขับเคลื่อนหลักของตลาดภูเก็ตมาจาก ผู้ซื้อชาวต่างชาติ ปัจจุบันต่างชาติถือครองสัดส่วนการซื้อคอนโดในภูเก็ตกว่า 60% ของยอดขายทั้งหมด โดยมีกลุ่มนักลงทุนหลากหลายชาติทั้ง รัสเซีย, จีน, อังกฤษ, ยุโรปตะวันตก, สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ที่มองหาคอนโดในภูเก็ตเป็นบ้านพักตากอากาศหรือสินทรัพย์ลงทุน ยอดขายคอนโดให้ต่างชาติในภูเก็ตช่วงครึ่งแรกปี 2567 เพิ่มขึ้นกว่า 140% จากปีก่อนหน้า ถือว่าฟื้นตัวแรงมาก ทั้งนี้เนื่องจากต่างชาติกลับเข้าภูเก็ตคิดเป็น >60% ของผู้โดยสารสนามบินภูเก็ตในปีที่ผ่านมา ตอกย้ำว่าภูเก็ตยังเป็น ทำเลทองในสายตานักลงทุนต่างชาติ หลายคนเปลี่ยนจากการมาเที่ยวสั้นๆ เป็นซื้ออสังหาฯ เพื่อถือครองระยะยาว ขณะเดียวกัน ผู้ซื้อชาวไทย ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนใหญ่และคนรุ่นใหม่ฐานะดีที่มองภูเก็ตเป็นโอกาสลงทุนแห่งใหม่ ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตปี 2567 เรียกได้ว่า “ร้อนแรงสวนกระแสเศรษฐกิจ” เพราะยอดโอนและให้เช่ารวมทั้งปีสูงเกิน 55,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยหนุนมาจากความต้องการอสังหาฯ ระดับลักชัวรีทั้งคอนโดและวิลล่าจากคนไทยและต่างชาติกลุ่มมั่งคั่ง โดยเฉพาะชาวรัสเซียและยุโรปตะวันออกที่เข้ามาซื้อหาอสังหาฯ ระดับบนใกล้ทะเลกันมาก ขณะเดียวกันผู้พัฒนารายใหญ่จากส่วนกลางก็เข้ามาปักหมุดโครงการคอนโดในภูเก็ตมากขึ้น ทำให้ตลาดคึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ระดับราคา คอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่องหลังโควิด ตามดีมานด์ที่ฟื้นแรง โดยเฉพาะคอนโดย่านยอดนิยมติดชายฝั่งทะเลที่นักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจสูง ระดับราคา ขายเฉลี่ย ของคอนโดในภูเก็ตอยู่ที่ประมาณ 4.5-6.0 ล้านบาทต่อยูนิต (หรือราว 100,000-150,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นกับทำเลและโครงการ) ถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ และใกล้เคียงพัทยา อย่างไรก็ดี ตลาดภูเก็ตก็มีความหลากหลายของระดับราคา ในอำเภอเมืองหรือทำเลรอง ราคาเริ่มต้นของคอนโดบางแห่งอาจอยู่ที่ 2-3 ล้านบาท (สำหรับห้องเล็ก 1 ห้องนอนในโครงการสร้างใหม่ระดับกลาง) ขณะที่โครงการไฮเอนด์ติดทะเลหรือวิวสวย ราคาสามารถสูงกว่า 10-20 ล้านบาทต่อยูนิต (เช่น โซนบางเทา มีคอนโดหรูใกล้ลากูน่าราคาแตะ ~20 ล้าน) นอกจากนี้ต้นทุนค่าก่อสร้างที่สูงขึ้นทำให้ราคาขายเปิดตัวใหม่ในภูเก็ตปี 2567 เฉลี่ยสูงขึ้นกว่าของเดิมเช่นกัน ราว 5-10%

ผลตอบแทนการลงทุน ในตลาดคอนโดภูเก็ตโดดเด่นเมื่อเทียบกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ อัตราผลตอบแทนค่าเช่า (Rental Yield) เฉลี่ยประมาณ 5-8% ต่อปี โดยกลุ่มคอนโดตากอากาศในทำเลยอดนิยมสามารถสร้างผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยได้อีก เช่น คอนโดวิลล่าในย่าน ลากูน่า บางเทา ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าพักเฉลี่ย ~80% ตลอดปี เจ้าของห้องในย่านนี้สามารถทำ yield แตะ 8-10% ต่อปี ได้ไม่ยาก (กรณีปล่อยเช่ารายวันช่วงไฮซีซั่นที่อัตราค่าเช่าสูง) ขณะเดียวกัน คอนโดในทำเลคนท้องถิ่น (ย่านตัวเมืองใกล้แหล่งงาน) ที่เน้นปล่อยเช่าระยะยาวให้พนักงานบริษัทหรือครอบครัวคนไทย จะได้ yield ราว 4-6% ต่อปี ซึ่งแม้ต่ำกว่าย่านหาดท่องเที่ยวหลัก แต่ก็มีเสถียรภาพของผู้เช่าสูงกว่า (ผู้เช่ามักอยู่ยาว ค่าใช้จ่ายหาผู้เช่าบ่อยๆ น้อยกว่า) จุดนี้นักลงทุนสามารถพิจารณาปรับพอร์ตตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ เช่น เลือกลงทุนในทำเลท่องเที่ยวเพื่อหวังผลตอบแทนสูง แต่อาจต้องบริหารการปล่อยเช่าเชิงรุก เช่น ทำการตลาด Airbnb หรือจ้างผู้ดูแล เนื่องจากผลตอบแทนผันผวนตามฤดูกาลท่องเที่ยว ในทางกลับกัน หากเลือกคอนโดในเมืองก็อาจได้ค่าเช่าสม่ำเสมอกว่าแต่ yield ต่ำกว่า

ความเสี่ยงที่ต้องจับตา ในภูเก็ตคือ อุปทานล้นตลาดในบางโซน ช่วงปี 2566-2568 ภูเก็ตมีคอนโดใหม่เกิดขึ้นจำนวนมากในเวลาอันสั้น ทำให้มีหน่วยขายเหลือค้างสต็อกไม่น้อย โดยเฉพาะโซนยอดนิยมอย่าง บางเทา-สุรินทร์ ที่เริ่มมีสัญญาณว่าซัพพลายอาจแซงหน้าอุปสงค์ นักลงทุนควรติดตามปริมาณซัพพลายใหม่ในแต่ละย่านอย่างใกล้ชิด เพราะหากมีคอนโดสร้างเสร็จเข้าตลาดพร้อมกันจำนวนมาก อาจทำให้อัตราเช่าหรือราคาขายต่อชะลอตัวได้ชั่วคราว อย่างไรก็ดี ภาพรวมภูเก็ตยังมีปัจจัยหนุนแข็งแกร่ง ทั้งแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ (ทางด่วน, ระบบขนส่งมวลชน, ขยายสนามบิน) และความเป็น Global Destination ที่ตรึงใจชาวต่างชาติ ทำให้ความต้องการในระยะยาวยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

ตลาดคอนโดเชียงใหม่ ปี 2567-2568

เชียงใหม่ เป็นตลาดอยู่อาศัยใหญ่ที่สุดในภาคเหนือและเป็นเมืองท่องเที่ยว-การศึกษาที่สำคัญ ปี 2567 ตลาดคอนโดมิเนียมเชียงใหม่อยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังภาวะซบเซาหลายปีที่ผ่านมา แม้กำลังซื้อภายในประเทศจะยังไม่กลับมาเต็มที่ (เศรษฐกิจภูมิภาคและรายได้ประชาชนยังฟื้นช้า) แต่สัญญาณเชิงบวกเริ่มชัดเจนว่าตลาดคอนโดเริ่มกลับมา มีดีมานด์เหนือกว่าบ้านจัดสรร โดยข้อมูล REIC ระบุว่าช่วงครึ่งหลังปี 2567 ยอดขายคอนโดใหม่ในเชียงใหม่เพิ่มขึ้น ~33% เทียบปีก่อน ขณะที่บ้านแนวราบยอดขายหดตัว นั่นหมายถึงผู้บริโภคและนักลงทุนเริ่มหันความสนใจมาที่คอนโดมากขึ้น ปัจจัยหลักมาจาก การท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก และ การกลับมาของชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงช่วงโควิดที่ผ่านมามีซัพพลายคอนโดใหม่ออกสู่ตลาดน้อย ทำให้สินค้าในตลาดปัจจุบันมีความน่าสนใจขึ้นเมื่อดีมานด์กลับมา

เชียงใหม่ ยังคงเป็น ศูนย์กลางอสังหาฯ ภาคเหนือ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50-60% ของหน่วยขายทั้งหมดในภูมิภาค ทำเลคอนโดที่ได้รับความนิยมและขายดีในช่วงปีที่ผ่านมา ได้แก่ โซนสันทรายและรอบมหาวิทยาลัยพายัพ (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง), โซนตัวเมืองชั้นในและย่านนิมมานฯ-สุเทพ, รวมถึง โซนชานเมืองทางใต้ (อ.หางดง) และบางส่วนของ อ.สันกำแพง สาเหตุที่ทำเลเหล่านี้ขายดีกว่า เพราะมีดีมานด์ทั้งจากคนท้องถิ่นที่ซื้ออยู่อาศัยเองและนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะ โซนใกล้มหาวิทยาลัยและในเมือง ที่คนจีนและชาติอื่นนิยมซื้อไว้ปล่อยเช่าให้เพื่อนร่วมชาติหรืออยู่เอง อย่างไรก็ดี แม้ยอดขายจะกระเตื้องขึ้น แต่ สต็อกเหลือขาย ในเชียงใหม่ยังมีอยู่มาก ณ ต้นปี 2568 มีคอนโดเหลือขายราว 10,000 ยูนิต แม้จำนวนลดลงเล็กน้อย (~3-4%) จากปีก่อน แต่ก็ยังถือว่าสูง ผู้ประกอบการบางรายจึง ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ และหันมาระบายสต็อกพร้อมอยู่หรือปรับโปรโมชันจูงใจผู้ซื้อ เช่น ลดราคาหรือแถมเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเร่งการขายห้องชุดที่ค้างอยู่ ตลาดคอนโดเชียงใหม่จึงยังเป็นตลาดที่ผู้ซื้อได้เปรียบในหลายทำเล

ผู้ซื้อชาวต่างชาติ เป็นอีกกลุ่มที่เข้ามาพยุงตลาดเชียงใหม่อย่างมากในช่วงนี้ จากรายงานสมาคมอสังหาฯ ท้องถิ่นพบว่าในปี 2566-2567 ชาวจีนคิดเป็นเกือบ 46% ของผู้ซื้อคอนโดต่างชาติทั้งหมดในเชียงใหม่ และมีการสอบถามซื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากปีก่อนหน้า นอกจากจีนยังมีชาวยุโรปและอเมริกันสูงวัยที่มองเชียงใหม่เป็นเมืองเกษียณอายุที่น่าอยู่ (อากาศดี ค่าครองชีพต่ำกว่าเมืองตะวันตก) ส่วนชาวญี่ปุ่นก็สนใจคอนโดเชียงใหม่บางส่วนเช่นกัน ชาวต่างชาติเหล่านี้มักซื้อคอนโดในทำเลเมืองหรือใกล้มหาวิทยาลัย ที่มีกลุ่มผู้เช่าเป็นนักศึกษาหรือ expat รองรับ จุดแข็ง ของเชียงใหม่ที่ดึงดูดต่างชาติคือ วิถีชีวิตสบายๆ ค่าใช้จ่ายไม่สูง บริการทางการแพทย์ดี และมีชุมชนชาวต่างชาติอยู่ก่อนแล้ว ทำให้รู้สึกไม่โดดเดี่ยว

ระดับราคา คอนโดเชียงใหม่โดยทั่วไปถูกกว่ากรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ชายทะเลพอสมควร ราคาขายเริ่มต้นของคอนโดขนาดเล็ก 1 ห้องนอนในเมืองสามารถหาได้ที่ 1.5-2 ล้านบาท (โครงการระดับกลาง) ไปจนถึงคอนโดหรูวิวดอยหรือวิวแม่น้ำที่ราคาสูง ~5-8 ล้านบาท สำหรับห้อง 2-3 ห้องนอนในโครงการใหม่ โดยราคาต่อตารางเมตรอยู่ประมาณ 40,000-80,000 บาท ตามทำเล ถ้าเป็นคอนโดสร้างใหม่ใจกลางนิมมานฯ หรือใกล้มหาวิทยาลัยดัง อาจอยู่ราว 70,000-90,000 บาท/ตร.ม. ส่วนคอนโดมือสองหรือโครงการเก่ารอบนอก ราคาต่ำกว่า 50,000 บาท/ตร.ม. ก็มีให้เห็นพอสมควร กล่าวโดยสรุป ราคาเฉลี่ย ของคอนโดในเชียงใหม่อยู่ราว 2-3 ล้านบาทต่อยูนิต หรือ ประมาณ 60,000 บาท/ตร.ม. (ต่ำกว่ากรุงเทพฯ เกือบครึ่งหนึ่ง) ซึ่งความถูกนี้เองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนจีนและต่างชาติสนใจ เพราะมองว่าคอนโดเชียงใหม่ “คุ้มค่า” เมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ

ผลตอบแทนการลงทุน ด้านการปล่อยเช่าในเชียงใหม่อยู่ในระดับปานกลาง ค่าเช่าคอนโด 1 ห้องนอนในเมืองเชียงใหม่โดยเฉลี่ย ~10,000-15,000 บาท/เดือน (ถ้าใกล้มหาวิทยาลัยหรือโรงพยาบาลจะปล่อยได้ง่าย) เมื่อเทียบกับราคาห้อง 2-3 ล้านบาท Yield จะอยู่ราว 4-6% ต่อปี ซึ่งถือว่าไม่เลวเมื่อเทียบกับเงินฝาก อย่างไรก็ตาม จังหวะการปล่อยเช่าจะมีขึ้นลงตามฤดูกาลท่องเที่ยวด้วย ช่วงไฮซีซั่นปลายปี-ต้นปีจะปล่อยเช่าง่ายกว่าเพราะชาวต่างชาติมาพักมาก ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนถึงต้นฝนอาจต้องพึ่งพิงผู้เช่าระยะยาว (คนไทยหรือ expat ที่อยู่ทั้งปี) ดังนั้นบางโครงการมีการผสมผสานระหว่างปล่อยเช่ารายเดือนปกติกับปล่อยเช่า Airbnb ช่วงฤดูกาล เพื่อเพิ่มผลตอบแทน

แนวโน้มตลาด: ปี 2568 คาดว่าความต้องการคอนโดเชียงใหม่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพและโครงการที่ตอบโจทย์ผู้ซื้อยุคใหม่ ภาครัฐยังมีมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง (ค่าธรรมเนียมโอนต่ำดังกล่าว) จึงช่วยให้ตลาดระดับกลาง-ล่างขยับดีขึ้นมาก ประกอบกับภาคท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่มีเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวไทย 40 ล้านคน/ครั้ง (รวมเที่ยวซ้ำ) ในปี 2567-2568 และดึงนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นผ่านนโยบายฟรีวีซ่า สิ่งนี้จะส่งผลดีต่อตลาดเช่าคอนโดทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ซื้อคอนโดปล่อยเช่าให้กลุ่มนักเที่ยวหรือ expat ที่มาอยู่เชียงใหม่

ความท้าทายในเชียงใหม่ยังคงเป็น สต็อกคอนโดค้างขายจำนวนมาก ดังนั้นผู้ซื้อควรใช้ความได้เปรียบนี้ในการต่อรองราคาและของแถม โดยปัจจุบันหลายโครงการพร้อมอยู่ในเชียงใหม่เสนอส่วนลดเงินสด, ฟรีเฟอร์นิเจอร์, ฟรีค่าโอน, ฯลฯ เพื่อเร่งปิดการขาย ห้องชุดพร้อมอยู่ที่ลดราคาเหล่านี้บางครั้งอาจคุ้มค่ากว่าซื้อห้องใหม่ในโครงการเปิดตัว (เพราะราคาต่อ ตร.ม. ถูกกว่า แถมตกแต่งครบ) ผู้ซื้อเพื่ออยู่เองที่ไม่ยึดติดกับการเป็นโครงการใหม่แกะกล่อง จึงมีโอกาสได้ห้องดีในราคาคุ้ม ส่วนผู้ลงทุน ควรเลือกโครงการที่มีจุดขายให้เช่าง่าย เช่น ใกล้มหาวิทยาลัย, ใกล้นิมมานฯ (แหล่งไลฟ์สไตล์), หรือวิวธรรมชาติชัดเจน เพราะจะสร้างความแตกต่างดึงดูดผู้เช่า/ผู้ซื้อในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้

ตลาดคอนโดหัวหิน ปี 2567-2568

หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเมืองตากอากาศชายทะเลยอดนิยมของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ (~2-3 ชม.โดยรถยนต์) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุปทานคอนโดหัวหินเติบโตไม่มากนักเมื่อเทียบกับภูเก็ตหรือพัทยา แต่ตลาดนี้ยังได้รับความสนใจจากกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในไตรมาส 1 ปี 2567 มีการเปิดตัว โครงการคอนโดใหม่ใจกลางเมืองหัวหินถึง 2 โครงการ รวม 671 ยูนิต ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 12 ไตรมาส หนึ่งในนั้นคือโครงการใหญ่ The Standard Residences Hua Hin (โดยแสนสิริ) มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นบีชฟร้อนท์แบรนด์เรสซิเดนซ์แห่งแรกในเอเชีย ตั้งอยู่ติดชายหาดหัวหิน การมาของโครงการระดับโลกนี้สะท้อนว่าหัวหินยังดึงดูดการลงทุนอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์ และคาดว่าจะกระตุ้นตลาดโดยรวมให้คึกคักขึ้นอีก

ลักษณะตลาดหัวหิน แบ่งเป็นสองฝั่งหลักคือ ฝั่งทะเล (ติดชายหาด) กับ ฝั่งภูเขา/ฝั่งเมือง (ฝั่งตรงข้ามทะเล) พบว่า คอนโดฝั่งทะเลหัวหินมีอัตราการขายสูงที่สุด ~81.9% รองลงมาคือฝั่งภูเขา ~69.8% ขณะที่พื้นที่ใกล้เคียงอย่างชะอำและปราณบุรียอดขายใหม่ค่อนข้างช้า และยูนิตเหลือขายทั้งหมดในโซนนั้นเป็นโครงการสร้างเสร็จแล้วที่ยังขายไม่หมด แตกต่างกับในตัวเมืองหัวหิน (ทั้งฝั่งภูเขาและฝั่งทะเล) ที่ยอดขายยูนิตใหม่ค่อนข้างเร็ว สะท้อนว่าตลาดคอนโดในใจกลางหัวหินยังได้รับความสนใจสูง ทั้งจากลูกค้าและผู้พัฒนาที่มองเห็นโอกาสเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ที่ดินติดหาดหัวหินหายากและมีจำกัด โครงการใหม่ๆ ที่เปิดจึงมักขายดี เพราะตอบโจทย์ทั้งการเป็นบ้านพักตากอากาศและการลงทุน (ยูนิตติดทะเลปล่อยเช่าได้ราคาและขายต่อก็ขึ้นดี)

ระดับราคา คอนโดหัวหินมีความแตกต่างตามระยะห่างจากชายหาด โครงการโลว์ไรส์เก่าในเมืองหรือโซนชะอำ (ที่ไม่ติดทะเล) มีราคาค่อนข้างถูก เริ่มต้นราว 1-2 ล้านบาท (30,000-50,000 บาท/ตร.ม.) ในขณะที่โครงการใหม่ใจกลางหัวหินราคาขยับสูงขึ้นมาก เช่น โครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน (ติดชายหาด) ราคาเปิดตัวเฉลี่ยประมาณ 270,000-300,000 บาท/ตร.ม. หรือยูนิต 3 ห้องนอนใหญ่ติดหาดราคาประมาณ 100 ล้านบาท ก็มี (มีข่าวว่าในโครงการนี้มีพูลวิลล่าติดหาดเพียง 2 ยูนิต ราคา 100 ล้านบาท ขายหมดอย่างรวดเร็ว) อย่างไรก็ตาม คอนโดส่วนใหญ่ในหัวหินไม่ได้สูงระดับนั้น ราคา เฉลี่ยคอนโดระดับกลาง ในหัวหินอยู่ที่ประมาณ 70,000-100,000 บาท/ตร.ม. หรือ 3-6 ล้านบาทต่อยูนิต สำหรับห้อง 1-2 ห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐาน (สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ฯลฯ) ส่วน คอนโดมือสอง หรือโครงการที่สร้างมานานจะมีราคาต่ำกว่านี้ เช่น ห้องสตูดิโอ/1 นอน ในโครงการเก่าอาจขายที่ 1-2 ล้านบาท (ราว 40,000-60,000 บาท/ตร.ม.) ดังนั้นผู้ซื้อมีตัวเลือกหลายระดับตามงบประมาณ

ดีมานด์ผู้ซื้อ ในหัวหินส่วนใหญ่เป็นคนไทยฐานะปานกลางขึ้นไป ที่ซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับครอบครัวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือซื้อเตรียมไว้พักหลังเกษียณ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักลงทุนไทยบางส่วนที่ซื้อไว้ปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยว (รายวัน/รายเดือน) ส่วนผู้ซื้อชาวต่างชาติในหัวหินมีบ้างแต่ไม่มากเท่าภูเก็ต/พัทยา กลุ่มที่พบมักจะเป็นชาวยุโรปวัยเกษียณที่มาอยู่หัวหินระยะยาว หรือชาวฮ่องกง/สิงคโปร์ที่ชื่นชอบการเล่นกอล์ฟ (หัวหินมีสนามกอล์ฟหลายแห่ง) ที่เข้ามาซื้อคอนโดหรือวิลล่าไว้พักเวลาเดินทางมาเล่นกอล์ฟ ทั่วไปแล้ว ต่างชาติกลุ่มนี้มักซื้อโครงการระดับบน ติดทะเล หรือวิวสนามกอล์ฟ ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเขา

ผลตอบแทนการปล่อยเช่า คอนโดหัวหินสำหรับนักลงทุนไม่ได้หวือหวาเท่าภูเก็ตหรือพัทยา เนื่องจากหัวหินตลาดเล็กกว่าและเน้นกลุ่มครอบครัวคนไทยที่มาพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ (ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพำนักยาวตลอดปีเท่าภูเก็ต) Yield เฉลี่ยการปล่อยเช่าคอนโดหัวหินอยู่ประมาณ 3-5% ต่อปี เท่านั้น อย่างไรก็ดี หากเป็น คอนโดติดทะเล ที่ปล่อยเช่าแบบรายวันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ก็สามารถทำรายได้ค่อนข้างดีในช่วงวันหยุดยาวหรือฤดูท่องเที่ยว (อัตราการเข้าพักสูงและค่าห้องสูง) ซึ่งนักลงทุนบางรายใช้กลยุทธ์นี้ควบคู่กับการเข้าพักเองเป็นครั้งคราว กล่าวคือ ซื้อคอนโดไว้พักผ่อนเองบางเวลา และปล่อยเช่าช่วงที่ไม่ได้ใช้ เพื่อให้มีรายได้มาช่วยค่าใช้จ่าย ส่วนระยะยาวราคาอสังหาฯ หัวหินมีแนวโน้มขยับขึ้นเรื่อยๆ ตามที่ดินที่แพงขึ้นและการพัฒนาโครงการใหม่ๆ (เช่น การเข้ามาของแบรนด์โรงแรม/เรสซิเดนซ์ระดับโลก) ทำให้หัวหินยังคงเป็น เมืองตากอากาศที่น่าลงทุน อันดับต้นๆ โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่ขับรถไปมาสะดวก

แนวโน้ม: ผู้ประกอบการยังคงสนใจหัวหินและพื้นที่ใกล้เคียง แม้ ชะอำ ที่เลยขึ้นไปไม่มีคอนโดใหม่เปิดมาหลายปี (ตั้งแต่ 2559) แต่ในหัวหินเองก็มีโครงการใหม่ทยอยเปิด การแข่งขันหลักในอนาคตจะอยู่ที่ฝั่งทะเลในเมืองหัวหินที่ดินจำกัดและราคาแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว โครงการใหม่มักต้องสร้างความแตกต่าง เช่น พัฒนาร่วมกับแบรนด์โรงแรมดัง (กรณี The Standard) หรือขายคอนเซปต์ pet-friendly/เพื่อสุขภาพ เป็นต้น เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางที่มีกำลังซื้อ ส่วนฝั่งภูเขาที่ราคาถูกกว่าก็ยังเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้พื้นที่ใหญ่ในงบจำกัด คาดว่าในปี 2568 ตลาดหัวหินจะยังเติบโตต่อเนื่อง ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ผู้ประกอบการเองก็เชื่อว่าภาพรวมสถานการณ์คอนโดปี 2568 จะดีขึ้น จึงเริ่มกลับมามองหาที่ดินและวางแผนโครงการใหม่ในย่านนี้อีกครั้ง

ตลาดคอนโดเกาะสมุย ปี 2567-2568

เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) เป็นตลาดคอนโดบนเกาะท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงมาก สมุยเป็นเกาะท่องเที่ยวอันดับต้นของอ่าวไทย มีธรรมชาติสวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติคล้ายภูเก็ต แต่ตลาดอสังหาฯ สมุยยังอยู่ในช่วงเริ่มพัฒนา ทำให้ราคายังถูกกว่าภูเก็ตและพัทยา ส่งผลให้นักลงทุนมองสมุยว่าเป็น ตลาดที่ยัง Undervalued มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ปัจจุบันราคาคอนโดบนสมุยถูกกว่าภูเก็ตราว 20-30% และต่ำกว่ากรุงเทพฯ ประมาณ 20% หลายคนจึงเข้าซื้อเพื่อหวังส่วนต่างกำไรเมื่อเกาะสมุยพัฒนามากขึ้นทัดเทียมภูเก็ตในอนาคต

ปัจจัยเฉพาะ ของตลาดสมุยคือ ข้อจำกัดด้านกฎหมายผังเมือง ที่เข้มงวดมาก สมุยมีกฎห้ามก่อสร้างอาคารสูงเกินความสูงต้นมะพร้าว (~12 เมตร) ในหลายพื้นที่ ทำให้ คอนโดสมุยส่วนใหญ่เป็นอาคาร Low-rise ไม่เกิน 3-4 ชั้น และจำนวนยูนิตต่อโครงการจำกัด ส่งผลให้เมื่อดีมานด์ซื้อเพิ่มขึ้นแต่สร้างตึกสูงไม่ได้ ราคาคอนโดสมุยจึงมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องตามกลไกตลาด (ดีมานด์สูง ซัพพลายจำกัด) ในช่วงหลังโควิด (2566-2567) พบว่าราคาขายคอนโดและวิลล่าบนสมุยปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ ~4-5% โดยเฉพาะอสังหาฯ หรูติดชายหาดขึ้นอย่างน้อย 5% ในปี 2567 ปัจจัยหลักมาจากดีมานด์ต่างชาติที่เร่งตัวขึ้นเร็ว ทั้งกลุ่มซื้ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า แนวโน้มนี้คาดว่าจะต่อเนื่องในปี 2568 หากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวยังเอื้ออำนวย

ระดับราคา คอนโดมิเนียมบนเกาะสมุยมีช่วงราคาค่อนข้างกว้างตามทำเลและความหรูของโครงการ ราคาเริ่มต้น ของคอนโดขนาดเล็กหรือโครงการระดับรองที่อยู่ไกลหาด (~สตูดิโอหรือ 1 ห้องนอนเล็ก) อยู่ที่ประมาณ 1.5-3 ล้านบาท เช่น ห้องสตูดิโอ 30 ตร.ม. ในโครงการสร้างมานานนอกโซนท่องเที่ยวหลัก ราคาประมาณ 1.5-2 ล้านบาท (ตก ~50,000 บาท/ตร.ม.) ขณะที่ คอนโดระดับกลาง ในทำเลยอดนิยม (เช่น บ่อผุด, เชิงมน, เฉวง) จะมีราคาเฉลี่ย 3-8 ล้านบาท สำหรับห้อง 1-2 ห้องนอน โครงการกลุ่มนี้มักเป็นคอนโดโลว์ไรส์สร้างใหม่หรืออายุไม่เกิน 5-10 ปี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัย ส่วน คอนโดระดับไฮเอนด์ หรือยูนิตขนาดใหญ่ติดทะเล/วิวทะเลสวย จะมีราคา ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยบางห้องหรู (เพนท์เฮาส์ใหญ่หรือคอนโดลักษณะวิลล่าที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว) ราคาสูงถึง 15-20 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยทั้งเกาะสมุยในปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 5-6 ล้านบาทต่อยูนิต หรือคิดเป็น 80,000-90,000 บาท/ตร.ม. โครงการระดับกลาง-ไฮเอนด์หลายแห่งราคาขายอยู่ช่วง 70,000-110,000 บาท/ตร.ม. โดยบางโครงการใหม่เช่น Wing Samui ราคายูนิตส่วนใหญ่อยู่ที่ 100,000-110,000 บาท/ตร.ม. ส่วนคอนโดมือสองหรือโครงการห่างทะเลอาจเจอราคาต่ำกว่านั้น (~50,000-60,000 บาท/ตร.ม. สำหรับบางยูนิต) ราคาที่แตกต่างมากขึ้นอยู่กับทำเลและวิวเป็นสำคัญ หากอยู่ติดหาดหรือเห็นวิวทะเลชัด ราคาต่อ ตร.ม. มักสูงกว่ายูนิตที่อยู่ด้านในหรือไม่เห็นวิวมหาสมุทรอย่างมีนัยสำคัญ

ผลตอบแทนค่าเช่า คอนโดสมุยอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก เพราะเกาะสมุยกำลังประสบภาวะที่ ตลาดเช่าบูม - มีนักท่องเที่ยวและ remote workers เข้ามาพำนักจำนวนมากจนแทบไม่มีที่พักให้เช่าว่าง และค่าเช่าก็สูงขึ้นกว่าที่เคย ค่าเช่าคอนโดมาตรฐาน 1-2 ห้องนอนบนสมุยเฉลี่ยประมาณ 30,000-40,000 บาท/เดือน ส่วนคอนโดนอกย่านท่องเที่ยวหรือห้องเล็กอาจปล่อยเช่าได้ 15,000-20,000 บาท/เดือน ในขณะที่ห้องหรูวิวทะเลปล่อยเช่าแบบรายเดือนสามารถได้ 50,000 บาท/เดือนหรือมากกว่า ตามฤดูกาล เมื่อคิดเป็น Yield ต่อปีจะอยู่ราว 5-8% คล้ายภูเก็ต แต่บางกรณีที่ปล่อยเช่ารายวันที่รีสอร์ตหรูอาจทำได้สูงกว่านั้น นักลงทุนจำนวนไม่น้อยได้รับ ผลตอบแทนสุทธิจำนวนมาก จากตลาดเช่าสมุยที่กำลังเฟื่องฟู และหลายโครงการบนสมุยก็เริ่มมี โปรแกรมการันตีค่าเช่า 6-7% ในช่วงปีแรกๆ เช่นเดียวกับภูเก็ตเพื่อดึงดูดนักลงทุน แต่เช่นเดียวกัน ควรศึกษาความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนาและรายละเอียดสัญญาก่อนลงทุน (เลือกโครงการที่บริหารโดยแบรนด์โรงแรมดังหรือมีสถิติอัตราเข้าพักสูง จะช่วยลดความเสี่ยงด้านผลตอบแทนระยะยาว)

โดยภาพรวมในปี 2568 ตลาดคอนโดสมุยกลายเป็น Seller’s market มากขึ้น คือผู้ขายถือไพ่เหนือกว่าเนื่องจากอุปสงค์แข็งแกร่งแต่ซัพพลายเพิ่มได้จำกัด ราคาอสังหาฯ มีแนวโน้มขยับขึ้นและยูนิตคุณภาพในทำเลดีมักขายออกเร็ว สัญญาณเหล่านี้สะท้อนความเชื่อมั่นที่กลับมาเต็มที่ของตลาด หากนักลงทุนไทยกำลังมองหาจังหวะเข้าลงทุนคอนโดบนสมุย ช่วงเวลานี้ถือว่าน่าสนใจ แต่ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบอย่างรอบด้าน เช่น กลยุทธ์การปล่อยเช่าระยะยาว vs รายวัน, การดูแลทรัพย์สินระหว่างไม่อยู่ ฯลฯ

สรุปเปรียบเทียบตลาดหัวเมืองใหญ่: ในตารางด้านล่างคือการเปรียบเทียบระดับราคาเฉลี่ยและช่วงราคาคอนโดในทำเลสำคัญแต่ละแห่ง เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าพื้นที่ใดมีราคาสูง-ต่ำกว่ากัน และช่วยให้นักลงทุนประเมินความคุ้มค่าของทำเลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

ตารางเปรียบเทียบราคาคอนโดมิเนียม (กรุงเทพฯ vs ทำเลหลักต่างจังหวัด)

ทำเล

ราคาขายเฉลี่ย (บาท/ตร.ม.)

ราคาต่อยูนิตโดยประมาณ

หมายเหตุ

กรุงเทพฯ

~100,000-150,000 (กลางเมือง)

50,000-80,000 (ชานเมือง)

5-6 ล้านบาท (ห้องมาตรฐาน 1-2 นอน)

10 ล้านขึ้นไป (ห้องหรูใน CBD)

ราคากระจายตัวสูงสุด มีตั้งแต่คอนโดผู้มีรายได้น้อยจนถึงซูเปอร์ลักซ์ชัวรีระดับโลก (มีเคสขายต่อ 1 ล้านบาท/ตร.ม. มาแล้ว)

พัทยา

~70,000-120,000

3-5 ล้านบาท (1-2 นอนกลางๆ)

10 ล้านขึ้นไป (ติดหาดระดับไฮเอนด์)

ราคาขึ้นกับระยะห่างทะเล โซนวงศ์อมาตย์/นาเกลือแพงสุด (คาดราคาโต 5-7% ต่อปี)

รัสเซีย-จีนซื้อเยอะ ผลตอบแทนเช่าสูง (~5-7%)

ภูเก็ต

~100,000-150,000

4.5-6 ล้านบาทต่อยูนิต (เฉลี่ย)

10-20 ล้าน (ห้องหรูติดทะเล)

ตลาดอินเตอร์ ต่างชาติซื้อ ~60%

คอนโด 15,000 ยูนิต มูลค่ารวม 1.26 แสนลบ.

Yield เช่า ~5-8% (ลากูน่า, ป่าตอง สูงสุด 8-10%)

เชียงใหม่

~50,000-80,000

2-3 ล้านบาท (ห้องทั่วไปในเมือง)

5-8 ล้าน (ห้องใหญ่/โครงการใหม่วิวสวย)

คนจีนซื้อเกือบครึ่งของต่างชาติ

ยังมีสต็อกค้าง ~หมื่นยูนิต แต่ยอดขายใหม่เพิ่ม 33%

คอนโดครองตลาดเหนือ (50-60% ของภาค)

หัวหิน

~60,000-100,000

3-6 ล้านบาท (คอนโดกลางๆ)

10-30 ล้าน (ห้องหรูติดหาด)

คอนโดติดทะเลขายดี (ฝั่งทะเลขายได้ 81.9%)

ซัพพลายใหม่ไม่มาก ชะอำไม่มีเปิดใหม่ตั้งแต่ปี 59

Standard Residences เปิด 671 ยูนิต Q1/67

เกาะสมุย

~80,000-90,000 (เฉลี่ยทั้งเกาะ)

70,000-110,000 (โครงการ mid-high)

50,000-60,000 (มือสองไกลทะเล)

5-6 ล้านบาทต่อยูนิต (เฉลี่ย)

10-20 ล้าน (ห้องหรูวิวทะเล)

จำกัดความสูงตึก (<12 ม.) ซัพพลายจำกัด ราคาขาขึ้นชัดเจน

ถูกกว่าภูเก็ต ~20-30% (ตลาดยัง Undervalued)

Seller’s market ผู้ขายถือราคาสูง (ห้องสวยขายไว)

(หมายเหตุ: ราคาที่แสดงเป็นค่าโดยประมาณ ณ ปี 2567-2568 ในตลาดคอนโดมือหนึ่ง ยกเว้นที่ระบุว่ามือสอง ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างในแต่ละโครงการ ขึ้นอยู่กับทำเลและคุณภาพโครงการ)

จากตารางจะเห็นว่า กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และพัทยา เป็นกลุ่มที่ราคาคอนโดเฉลี่ยต่อ ตร.ม. สูงสุด (หลักแสนบาท/ตร.ม. ขึ้นไป) เนื่องจากเป็นเมืองเศรษฐกิจและท่องเที่ยวหลักที่มีดีมานด์สูง ส่วน หัวหินและเชียงใหม่ ราคาจะรองลงมา (หลักหมื่นปลายถึงแสนต้น) และ เกาะสมุย แม้เฉลี่ยใกล้เคียงพัทยา/ภูเก็ตในบางโครงการ แต่โดยรวมยังต่ำกว่าภูเก็ตพอสมควร (20-30%) ถือเป็นตลาดที่ยังมีส่วนต่างให้เติบโต

วิเคราะห์ Buyer Persona ผู้ซื้อคอนโดกลุ่มต่าง ๆ

การทำความเข้าใจ Buyer Persona หรือกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมายของตลาดคอนโดจะช่วยให้ทั้งผู้พัฒนาและนักลงทุนสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด รวมถึงช่วยผู้ซื้อเองเลือกโครงการที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยทั่วไปตลาดคอนโดในไทยสามารถแบ่งกลุ่มผู้ซื้อตามลักษณะการใช้ชีวิตและวัตถุประสงค์การซื้อได้ดังนี้

คนโสดวัยทำงาน / First Jobber

คนโสดวัยเริ่มทำงาน เป็นกลุ่มลูกค้าคอนโดที่สำคัญในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เนื่องจากต้องการที่พักอาศัยที่เดินทางสะดวกใกล้ที่ทำงานและแหล่งไลฟ์สไตล์ คนกลุ่มนี้มักอายุประมาณ 22-35 ปี เพิ่งเริ่มสร้างฐานะและยังไม่มีภาระครอบครัวมาก ความต้องการหลัก คือคอนโดที่เดินทางง่าย (ใกล้รถไฟฟ้า, รถใต้ดิน หรือใกล้ที่ทำงานย่าน CBD) ในราคาที่ตนเองเอื้อมถึง ห้องพักขนาดเล็กแบบสตูดิโอหรือ 1 ห้องนอนจึงได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะราคาต่อยูนิตต่ำกว่าและเพียงพอกับการอยู่คนเดียว นอกจากนี้ คนโสดยุคใหม่ยังให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Co-working Space, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. เพราะใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในคอนโดหลังเลิกงาน รวมถึงบรรยากาศโครงการ (ต้องทันสมัย เป็น Community คนรุ่นใหม่) ด้วย

งบประมาณ ของคนโสดกลุ่มนี้มักจำกัดตามระดับเงินเดือน ระดับราคาราว 1.5-3 ล้านบาท เป็นช่วงที่มีกำลังซื้อสูงสุด ซึ่งในกรุงเทพฯ จะได้คอนโดระดับ Economy Class ทำเลรอบนอก (หรือห้องขนาดเล็กในทำเลชั้นกลาง) ส่วนในต่างจังหวัด 2-3 ล้านบาทก็ได้คอนโดทำเลดีพอสมควรแล้ว ทั้งนี้หลายคนใช้วิธีซื้อคอนโดที่อยู่ไกลจาก CBD ออกไปแต่ใกล้รถไฟฟ้า (เช่น ติดสถานีสายสีม่วงหรือสายสีเขียวส่วนต่อขยาย) เพื่อให้ได้ห้องขนาดใหญ่ขึ้นในงบเท่าเดิม และยอมเสียเวลาเดินทางเพิ่มเล็กน้อย

แนวโน้ม/พฤติกรรม: คนโสดยุคใหม่มัก เปลี่ยนที่อยู่อาศัยตามช่วงชีวิต เช่น ตอนอายุ 25 อาจซื้อคอนโด 1 ห้องนอนเล็กใกล้ที่ทำงาน แต่เมื่ออายุ 30+ มีรายได้สูงขึ้นหรือเริ่มวางแผนสร้างครอบครัวก็อาจขาย/ปล่อยเช่าห้องเดิมแล้วขยับขยายไปที่ใหม่ ดังนั้นผู้พัฒนาหลายรายจึงออกแบบโครงการสำหรับ First Jobber เน้นราคาจับต้องได้และผ่อนต่อเดือนไม่สูง (บางโครงการผ่อนเริ่ม 7-8 พันบาทต่อเดือน) เพื่อให้หนุ่มสาวเริ่มต้นชีวิตมีกำลังซื้อได้ง่าย อีกทั้งมักทำเลใกล้รถไฟฟ้าและมีร้านค้า/คาเฟ่รอบโครงการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ปัจจุบันคนโสดยังสนใจ คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly) มากขึ้น เพราะอยู่คนเดียวก็อยากมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน โครงการใหม่บางแห่งจึงโปรโมตเรื่องนี้เพื่อเจาะตลาดคนโสดรักสัตว์ด้วย

คู่รักหรือครอบครัวขนาดเล็ก

กลุ่ม คู่รักหนุ่มสาว (ที่อาจแต่งงานแล้วหรืออยู่ร่วมกัน) และ ครอบครัวขนาดเล็กที่มีลูกเล็ก 1-2 คน มีความต้องการคอนโดที่แตกต่างออกไปจากคนโสด สิ่งที่ให้ความสำคัญ อันดับแรกคือ พื้นที่ใช้สอยและจำนวนห้อง - คอนโดแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไป เป็นที่ต้องการของกลุ่มนี้ เพราะต้องการห้องเผื่อสำหรับลูกหรือทำเป็นห้องอเนกประสงค์/ห้องทำงาน คู่รักที่ยังไม่มีลูกอาจเริ่มจาก 1 ห้องนอนขนาดใหญ่ (~35-50 ตร.ม.) แต่ครอบครัวมีลูกเล็กมักมองหาห้อง 2 ห้องนอน (~60-70 ตร.ม. ขึ้นไป) เพื่อความสะดวกในการอยู่อาศัยระยะยาว ซึ่งห้องขนาดใหญ่เหล่านี้มีราคาสูงกว่ามาก ทำให้ครอบครัวบางส่วนชั่งใจระหว่างซื้อคอนโดใหญ่ vs. ซื้อบ้านทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยวชานเมืองในราคาใกล้เคียงกัน แต่หลายครอบครัวยังเลือกคอนโดเพราะต้องการอยู่ในเมืองใกล้ที่ทำงานและโรงเรียนของลูก

ทำเลที่นิยม ของกลุ่มครอบครัวจะต่างจากคนโสดเล็กน้อย ครอบครัวมักมองหาความสงบ ปลอดภัย มีชุมชนคุณภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก เช่น สนามเด็กเล่น สวนหย่อม หรือใกล้สวนสาธารณะ โซนที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ชานเมืองที่ไม่พลุกพล่าน แต่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก เช่น บางนา-ตราด, พระราม 9-รามคำแหง, รัชโยธิน, หรือแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่มีห้างใหญ่และโรงเรียนนานาชาติ นอกจากนี้ คอนโด Low-rise ที่ยูนิตน้อยและบรรยากาศเงียบสงบมักถูกใจครอบครัวมากกว่า High-rise กลางเมืองที่คนอยู่หนาแน่น แม้จะไม่ติดรถไฟฟ้าก็ตาม

งบประมาณ: ครอบครัวกลุ่มนี้มีงบมากกว่าคนโสด แต่ก็มีภาระค่าใช้จ่ายอื่น (ลูก, รถยนต์ ฯลฯ) โดยมากกำลังซื้อของคู่รักอายุ ~30-40 ปี จะอยู่ที่คอนโดราคา 4-8 ล้านบาท สำหรับ 2 ห้องนอน (ถ้าในกรุงเทพฯ อาจต้องดูโซนนอก CBD ที่ราคาไม่แพงมาก) ในต่างจังหวัดงบนี้อาจได้คอนโดใหญ่ใจกลางเมืองสบายๆ ผู้พัฒนาหลายรายจึงออกแบบห้อง 2-3 ห้องนอนในโครงการเพื่อจับกลุ่มนี้โดยเฉพาะ พร้อมทำโปรโมชันฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบชุดและเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เข้าอยู่ได้เลยเพื่อลดภาระการตกแต่งเพิ่มเติมของครอบครัว

แนวโน้ม/พฤติกรรม: ครอบครัวรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย เริ่มต้นชีวิตครอบครัวในคอนโด แทนที่จะเป็นบ้านเหมือนอดีต เนื่องจากต้องการอยู่ใกล้ที่ทำงานในเมืองและให้ลูกได้อยู่ใกล้โรงเรียนดีๆ ประกอบกับคอนโดใหม่สมัยนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกตอบโจทย์ครอบครัว เช่น สระเด็ก, ห้องเล่นเด็ก, Co-working Space ที่พ่อแม่สามารถนั่งทำงานขณะลูกเล่นได้ เป็นต้น ข้อกังวลของครอบครัวคือเรื่อง ที่จอดรถ (คอนโดติดรถไฟฟ้าบางแห่งที่ที่ดินจำกัดอาจมีที่จอดไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สะดวกสำหรับครอบครัวที่มีรถยนต์) และ ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ที่ต้องจ่ายระยะยาว เมื่อเทียบกับบ้านแล้ว คอนโดอาจมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ส่วนตัวและอิสระการตกแต่ง แต่หลายครอบครัวก็ยอมรับได้เพราะแลกกับทำเลที่สะดวกและความปลอดภัย (มีรปภ.ดูแล) ทั้งนี้หากครอบครัวขยายใหญ่ขึ้นหรือมีลูกเพิ่ม ก็มักวางแผนย้ายไปบ้านในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ทำให้การเลือกคอนโดของกลุ่มนี้จะคิดเผื่อการขายต่อหรือปล่อยเช่าไว้ด้วย ดังนั้นโครงการที่เจาะกลุ่มครอบครัวควรอยู่ในทำเลที่มีดีมานด์รองรับหากเจ้าของต้องการขาย/ปล่อยเช่าในอนาคต เช่น ใกล้โรงเรียนนานาชาติ, ใกล้ย่านสำนักงาน เป็นต้น

นักลงทุนอสังหาฯ (ซื้อปล่อยเช่า/เก็งกำไร)

นักลงทุนคอนโด เป็นกลุ่ม Buyer Persona ที่มีผลต่อตลาดค่อนข้างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นักลงทุนเหล่านี้ไม่ได้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง แต่ซื้อเพื่อต่อยอดทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น ลงทุนปล่อยเช่า (Rental Investment) หรือ ซื้อมารีเซลทำกำไร (Flipping) ในช่วงเปิดตัวและก่อสร้าง แรงขับเคลื่อนจากนักลงทุนชัดเจนมากในตลาดเมืองท่องเที่ยว (ดังที่กล่าวไปว่าต่างชาติเช่น รัสเซีย, จีน กำลังแห่ซื้อคอนโดในภูเก็ต พัทยา จนเต็มโควตาต่างชาติแทบทุกโครงการหรู) รวมถึงนักลงทุนไทยก็เข้ามาจับจองโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพตั้งแต่พรีเซลเพื่อเก็งกำไรขายต่อเช่นกัน

ความต้องการหลักของนักลงทุน คือ ผลตอบแทนทางการเงินที่คุ้มค่า นักลงทุนมักวิเคราะห์ตัวเลข Rental Yield เปรียบเทียบราคาซื้อกับค่าเช่าตลาดในทำเลนั้นๆ รวมถึงแนวโน้มราคาขายต่อและอัตราการขึ้นของราคาในอนาคต เช่น ดูสถิติการท่องเที่ยวในพื้นที่, อัตราการเข้าพักของโรงแรม/คอนโด, แผนการพัฒนาพื้นที่รอบข้าง ฯลฯ เพื่อประเมินว่าลงทุนแล้วจะได้กำไรหรือไม่ นักลงทุนไทยบางกลุ่มที่เน้นปล่อยเช่าไม่ได้ปล่อยเช่าตลอดเวลา บางรายซื้อคอนโดไว้พักเองเวลามาเที่ยวและปล่อยเช่าเฉพาะช่วงที่ไม่ได้อยู่ เพื่อเก็บรายได้ค่าเช่ามาช่วยค่าใช้จ่าย (เช่น ซื้อคอนโดภูเก็ตไว้ ใช้เองช่วง WFH 2-3 เดือนที่เหลือปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติ) พฤติกรรมที่น่าสนใจคือ นักลงทุนไทยรุ่นใหม่มักเลือกซื้อ โครงการที่สิ่งอำนวยความสะดวกครบและบริหารแบบมืออาชีพ (เช่น มีบริการปล่อยเช่า, ทำความสะอาด, ผู้จัดการโครงการที่สื่อสารอังกฤษได้) เพื่อให้ง่ายต่อการปล่อยเช่าโดยตนเองไม่ต้องดูแลมาก ส่วนด้านการเลือกห้อง นักลงทุนจะเน้นเลือก ยูนิตที่ปล่อยเช่าง่ายและขายต่อคล่อง - เช่น ชั้นสูงวิวดี, ตำแหน่งหัวมุม, ขนาดยอดนิยม (สตูดิโอ/1 ห้องนอนเล็กในย่านที่มีดีมานด์เช่าจากคนทำงาน หรือ 1-2 ห้องนอนวิวทะเลในเมืองท่องเที่ยว) เป็นต้น

งบประมาณและการกระจายการลงทุน: นักลงทุนมักมีทรัพย์สินหลายแห่ง บางคนลงทุนกระจายในหลายเมือง เช่น พอร์ตหนึ่งอาจถือคอนโด 2 ห้องที่กรุงเทพฯ ปล่อยเช่าเดือนละ 15,000 บาท, คอนโด 1 ห้องที่พัทยาปล่อยเช่ารายวัน, และกำลังรอโอนคอนโดใหม่ที่ภูเก็ตเพื่อขายใบจอง เป็นต้น นักลงทุนมืออาชีพจะ จัดพอร์ตกระจายความเสี่ยง คล้ายการลงทุนหุ้นกองทุน คือมีทั้งอสังหาฯ ผลตอบแทนสูงความเสี่ยงสูง (คอนโดตากอากาศ, วิลล่า Airbnb) ผสมกับอสังหาฯ ผลตอบแทนต่ำความเสี่ยงต่ำ (ห้องชุดเล็กในเมืองที่มีผู้เช่าประจำมั่นคง) และอาจเก็งกำไรบางส่วนจากการซื้อก่อนโอน (ยอมเสี่ยงหาผู้ซื้อต่อ) อีกส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ในช่วงตลาดขาขึ้น (ก่อนปี 2562) มีนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นจำนวนมาก แต่หลังโควิดคนกลุ่มนี้ลดลง เหลือนักลงทุนสายปล่อยเช่าระยะยาวมากขึ้น เพราะราคาอสังหาฯ ปรับขึ้นไม่หวือหวามากเหมือนแต่ก่อน

แนวโน้ม/พฤติกรรม: ช่วงปี 2567-2568 นักลงทุนต่างชาติแห่เข้ามาลงทุนในเมืองท่องเที่ยวอย่างที่เห็น ในขณะที่นักลงทุนไทยบางส่วนก็ “หนี” การลงทุนคอนโดในกรุงเทพฯ (ที่ซบเซา) ไปลงทุนเมืองท่องเที่ยวแทน สอดคล้องกับรายงานว่า ดีเวลลอปเปอร์ไทยก็หนีตลาด กทม. ชะลอตัว ไปรุกเมืองท่องเที่ยว มากขึ้นเช่นกัน สำหรับปี 2568 หากภาวะดอกเบี้ยผ่อนคลายและเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น เราอาจเห็นนักลงทุนไทยกลับเข้าสู่ตลาดคอนโดกรุงเทพฯ มากขึ้นด้วย โดยเลือกเจาะจงทำเลที่ถูกจังหวะ เช่น ซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายใหม่ก่อนเปิดใช้, ซื้อคอนโดใกล้อาคารสำนักงานใหญ่ที่สร้างเสร็จปีหน้า เป็นต้น

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนคอนโด (รายใหม่) ควรศึกษาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ศักยภาพทำเล, ภาวะซัพพลายในตลาด, ราคาค่าเช่าเฉลี่ย, กฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้อง, ตลอดจนค่าใช้จ่ายการถือครอง (ค่าส่วนกลาง, ค่าซ่อมบำรุง, ค่าการตลาดหาผู้เช่า) อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพราะการลงทุนอสังหาฯ มีสภาพคล่องต่ำกว่าสินทรัพย์อื่น ใช้เงินก้อนใหญ่และมีต้นทุนแฝง หากคำนวณรอบคอบย่อมลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น

ผู้ซื้อชาวต่างชาติ

แม้ไม่ได้ระบุในโจทย์ แต่ตลาดคอนโดไทยปัจจุบัน ผู้ซื้อชาวต่างชาติ (Foreign Buyers) มีความสำคัญมาก จึงขอเสริมในส่วนนี้โดยย่อ ชาวต่างชาติที่นิยมซื้อคอนโดไทยแบ่งได้หลัก ๆ 3 กลุ่ม:

  1. นักลงทุนต่างชาติ - เช่น ชาวจีน, รัสเซีย, สิงคโปร์ ฯลฯ ที่ซื้อคอนโดไทยเพื่อปล่อยเช่าหรือเก็งกำไร ต่างชาติกฎหมายไทยถือครองได้ 49% ต่อโครงการ จึงมักซื้อในโควตาต่างชาติของโครงการใหม่ ทำเลที่นิยมคือเมืองท่องเที่ยวและกรุงเทพฯ CBD ที่ปล่อยเช่าง่าย กลุ่มนี้ผลักดันตลาดลักชัวรีคอนโดในภูเก็ต-พัทยาอย่างมากช่วงปี 2566-2567 หลายโครงการต่างชาติซื้อจนเต็มโควต้า
  2. ผู้อยู่อาศัยระยะยาว/วัยเกษียณต่างชาติ - เช่น ชาวยุโรป, อเมริกัน, ญี่ปุ่น ที่มาพำนักในไทยนานหลายเดือนหรือย้ายถิ่นฐานมาอยู่เลย กลุ่มนี้ซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง มักเลือกเมืองน่าอยู่ที่สงบกว่ากรุงเทพฯ เช่น เชียงใหม่, หัวหิน, พัทยา (จอมเทียน), สมุย เป็นต้น ต้องการคอนโดคุณภาพดี สภาพแวดล้อมปลอดภัย บริการดี (บางคนเลือกโครงการที่มีแบรนด์โรงแรมมาบริหารเพื่อความอุ่นใจ) และสะดวกใกล้โรงพยาบาล ร้านค้า ความต้องการเฉพาะทาง เช่น คนญี่ปุ่นชอบคอนโดเชียงใหม่ย่านเงียบสงบวิวเขา, ฝรั่งวัยเกษียณชอบหัวหินเพราะสงบและมีคอมมูนิตี้คนต่างชาติ
  3. Expats ทำงานในไทย - ชาวต่างชาติที่มาทำงานบริษัทในไทย 3-5 ปีขึ้นไป บางส่วนตัดสินใจซื้อคอนโดแทนเช่าเพื่อเก็บเป็นทรัพย์สิน (โดยเฉพาะชาวเอเชีย เช่น จีน, อินเดีย ที่มองว่าคอนโดไทยถูกเมื่อเทียบกับบ้านเกิด) กลุ่มนี้มักซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ ใกล้ที่ทำงาน (สุขุมวิท, สีลม, สาทร) หรือใกล้โรงเรียนนานาชาติของลูก ค่าเงินต่างชาติที่แข็งค่ากว่าบาทช่วงหลังยิ่งทำให้คอนโดไทยดูน่าซื้อเพราะ “ถูกลง” ในมุมมองเขา

ข้อควรรู้สำหรับต่างชาติ: ต่างชาติซื้อคอนโดต้องใช้เงินโอนจากต่างประเทศเต็มจำนวน และขอใบ Foreign Exchange Transaction (FET) จากธนาคารไว้เป็นหลักฐานตอนโอนกรรมสิทธิ์ ต่างชาติทั่วไปกู้ธนาคารไทยไม่ได้ (ยกเว้นบางกรณีที่ธนาคารมีโปรแกรมพิเศษจำกัด) ดังนั้นต่างชาติจึงซื้อด้วยเงินสดหรือกู้จากประเทศตัวเองเป็นหลัก อีกเรื่องคือโควตา 49% ดังที่กล่าว - โครงการไหนดังๆ ต่างชาติจะจองเร็วมาก ผู้สนใจต้องรีบตัดสินใจ

โดยสรุป Buyer Persona ของตลาดคอนโดไทยมีหลากหลาย ตั้งแต่คนโสดทำงานที่อยากอยู่ใกล้รถไฟฟ้า, ครอบครัวเล็กที่เน้นพื้นที่และความสงบ, นักลงทุนที่มองผลตอบแทน และชาวต่างชาติที่เห็นคุณค่าอสังหาฯ ไทย การออกแบบพัฒนาโครงการและกลยุทธ์การตลาดต้องปรับให้ตอบโจทย์แต่ละกลุ่ม เช่น ทำห้องขนาดเล็กพร้อมโปรฯ ผ่อนต่ำสำหรับ First Jobber, ทำห้องใหญ่สิ่งแวดล้อมดีสำหรับครอบครัว, หรือทำเลวิวสวยผลตอบแทนดีสำหรับนักลงทุน เป็นต้น

ข้อดี-ข้อเสียของคอนโด (ตามขนาดห้องและรูปแบบโครงการ)

คอนโดมิเนียมมีหลากหลายขนาดห้องและรูปแบบอาคาร ซึ่งแต่ละแบบก็มี ข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกัน การตัดสินใจซื้อคอนโดควรพิจารณาว่าขนาดและประเภทใดที่เหมาะกับความต้องการของเรามากที่สุด ต่อไปนี้เป็นการวิเคราะห์ข้อดี/ข้อด้อยของคอนโดประเภทหลัก ๆ

คอนโดห้องขนาดเล็ก (สตูดิโอ / 1 ห้องนอน)

ข้อดี: ราคาซื้อถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเภทอื่น - ห้องสตูดิโอหรือ 1 ห้องนอนขนาด 25-30 ตร.ม. มักเป็นยูนิตที่ราคาเริ่มต้นต่ำสุดในโครงการ เหมาะกับผู้มีงบน้อย/คนโสดที่อยากมีคอนโดเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง (ที่คิดตามตร.ม.) ก็จะน้อยกว่าห้องใหญ่ ประหยัดค่าบำรุงรักษาไฟฟ้าแอร์เพราะพื้นที่เล็กทำความเย็น/ทำความสะอาดง่าย อีกข้อดีคือ ปล่อยเช่าง่าย - ในตลาดเช่าจะมีผู้เช่ากลุ่มใหญ่ที่ต้องการห้องราคาประหยัด ทำให้ห้องเล็กๆ มีดีมานด์สูง (นักลงทุนมักชอบซื้อห้องขนาดเล็กหลายห้องเพื่อปล่อยเช่า) ยield ต่อราคาก็มักสูงกว่าห้องใหญ่

ข้อเสีย: พื้นที่จำกัด - หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่คนเดียวได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยู่ 2 คนขึ้นไปจะอึดอัดและขาดความเป็นส่วนตัว (พื้นที่ครัว/นั่งเล่น/นอนอยู่รวมกันกรณีสตูดิโอ) หากต้อง Work from Home เป็นเวลานาน ห้องขนาดเล็กอาจทำให้เครียดได้เพราะอยู่ในพื้นที่แคบตลอดเวลา อีกทั้งมักมี ที่เก็บของน้อย ต้องจัดสรรของใช้ดีๆ นอกจากนี้ ความต้องการในตลาดรีเซล ของห้องเล็กอาจไม่สูงมาก - ผู้ซื้ออยู่เองมักอยากได้ห้องใหญ่ขึ้น ดังนั้นลูกค้าของการขายต่อส่วนมากจะเป็นนักลงทุน ทำให้การขายต่อห้องเล็กอาจต้องขายให้ราคาจูงใจจึงจะขายได้เร็ว

คอนโดห้องขนาดใหญ่ (2 ห้องนอนขึ้นไป)

ข้อดี: พื้นที่กว้างขวางอยู่สบาย ใกล้เคียงกับอยู่บ้าน - เหมาะกับครอบครัวหรือผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตระยะยาว ห้อง 2-3 ห้องนอนสามารถจัดแบ่งโซนต่างๆ ได้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่ทำครัวทานข้าว นั่งเล่น ดูทีวี ไม่ทับกับห้องนอน จึงคุณภาพชีวิตดีกว่าห้องเล็ก การมีหลายห้องยังรองรับสมาชิกครอบครัวหรือทำห้องทำงานแยกในยุค WFH ได้ บรรยากาศการอยู่อาศัยจะสงบเป็นส่วนตัวกว่า (ไม่อึดอัด) อีกข้อดีคือ ตลาดรีเซล/เช่าระยะยาว สำหรับห้องใหญ่มีเฉพาะกลุ่มแต่จ่ายดี - เช่น ครอบครัว expat ที่มาไทยพร้อมลูก ยอมจ่ายเช่าสูงเพื่อได้ 2-3 ห้องนอน หรือคนไทยฐานะดีบางส่วนที่มองหาห้องใหญ่ใจกลางเมืองแทนซื้อบ้าน ดังนั้นถ้าทำเลดีห้องใหญ่ก็ขายต่อได้กำไรเช่นกันเนื่องจากซัพพลายมีจำกัด (แต่ละโครงการมีห้องใหญ่ไม่กี่ยูนิต)

ข้อเสีย: ราคาสูง - ห้องยิ่งใหญ่ราคายิ่งก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ในงบเดียวกัน (ในบางทำเล) การตัดสินใจซื้อจึงยากกว่า ผู้ซื้อต้องมั่นคงเรื่องรายได้จริงๆ จึงกล้าซื้อ ค่าธรรมเนียมการโอน/ภาษี/ค่าส่วนกลาง ก็สูงตามขนาดพื้นที่ เป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวที่ต้องแบกรับ อีกทั้ง ปล่อยเช่ายากกว่า ห้องเล็ก - ลูกค้ากลุ่มเช่า 2-3 ห้องนอนมีน้อย ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวซึ่งมักเช่าบ้านมากกว่าถ้าอยู่นานๆ เว้นแต่ทำเลกลางเมืองที่มี expat ถึงจะปล่อยเช่าได้ดี และกรณีต้องการขายต่อ ตลาดผู้ซื้อจะเล็กกว่าห้องเล็กเพราะคนส่วนใหญ่สู้ราคาห้องใหญ่ไม่ไหว ดังนั้นระยะเวลาขายอาจนานกว่า ต้องเผื่อเวลา

คอนโดโลว์ไรส์ vs ไฮไรส์

คอนโด Low-rise (อาคารต่ำกว่า 8 ชั้น ไม่มีลิฟต์/มีลิฟต์น้อย, ยูนิตน้อย) ข้อดี: บรรยากาศสงบเป็นส่วนตัว จำนวนผู้อยู่อาศัยน้อย ทำให้ใช้พื้นที่ส่วนกลางได้สะดวก ไม่แออัด การบริหารจัดการก็มักทั่วถึง ปัญหาการแย่งที่จอดรถหรือลิฟต์เสียยาวนานจะน้อยกว่า ค่าก่อสร้างและส่วนกลางต่ำกว่า คอนโดสูง (ไม่มีระบบตึกสูงซับซ้อน) ทำให้ค่าส่วนกลางต่อ ตร.ม. บางแห่งถูกกว่า คนที่ไม่ชอบชีวิตวุ่นวายจะรู้สึกเหมือนได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน/ทาวน์โฮมมากกว่าตึกสูง

ข้อเสีย: มักตั้งอยู่ในซอยลึกหรือทำเลรองที่ดินไม่แพง (ถ้าที่ดินติดถนนใหญ่ก็คงสร้าง high-rise ไปแล้ว) ทำให้ ระยะเดินทางอาจไม่สะดวก เท่าคอนโดติดรถไฟฟ้า นอกจากนี้คอนโดเตี้ยจะ วิวไม่สวย เท่าตึกสูง (มองไม่เห็นวิวเมือง/วิวแม่น้ำ) และสิ่งอำนวยความสะดวก บางอย่างอาจมีจำกัด เช่น สระว่ายน้ำเล็ก ฟิตเนสขนาดย่อม หรืออาจไม่มีพื้นที่สวน/สนามเด็กเล่นเลยเพราะที่ดินเล็ก ซึ่งผู้อยู่อาศัยต้องยอมรับแลกกับความสงบ

คอนโด High-rise (อาคารสูง 8 ชั้นขึ้นไป มีลิฟต์หลายตัว) ข้อดี: ทำเลมักดีกว่า ใกล้ถนนใหญ่/รถไฟฟ้า เพราะผู้พัฒนาพยายามใช้ประโยชน์ที่ดินราคาแพงให้คุ้มที่สุด คอนโดสูงๆ ในเมืองจึงมัก เดินทางสะดวก (เดินไม่กี่นาทีถึง BTS/MRT) และมีร้านค้า Community Mall รายรอบ ตอบโจทย์คนเมือง นอกจากนี้ตึกสูงจะ วิวทิวทัศน์ดี - ชั้นสูงๆ จะมองเห็นเมืองหรือแม่น้ำได้ไกล สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ยูนิต (บางคนซื้อคอนโดเพื่อวิวชั้นสูงเป็นหลัก) และด้วยจำนวนยูนิตมาก โครงการจึงมีงบทำส่วนกลางใหญ่ๆ เช่น สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก, Rooftop Garden, Sky Lounge วิวเมือง ฯลฯ ซึ่งหาไม่ได้ในคอนโดเล็ก ผู้พักอาศัยได้เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มที่

ข้อเสีย: ความแออัดและพื้นที่ส่วนตัวน้อยกว่า - ผู้อยู่อาศัยนับร้อยหรือพันยูนิตอยู่ร่วมกัน สิ่งอำนวยความสะดวกแม้ใหญ่แต่ต้องแชร์กับคนจำนวนมาก ช่วงเวลาเร่งด่วนอาจต้องรอลิฟต์นาน หรือลานจอดรถไม่พอเพียง (คอนโดติดรถไฟฟ้าบางแห่งจอดรถได้แค่ 30-50% ของยูนิต เน้นให้คนใช้รถไฟฟ้า) รวมถึงพื้นที่รอบโครงการมักน้อย บางแห่งไม่มีสวนดินจริงให้ร่มรื่นเลยเพราะผังที่ดินเล็ก นอกจากนี้ค่าก่อสร้างและบำรุงรักษาอาคารสูงซับซ้อนกว่า ทำให้ ค่าส่วนกลางแพง กว่า low-rise พอสมควร (ตึกสูงมีลิฟต์หลายตัว, ปั๊มน้ำดาดฟ้า, ระบบความปลอดภัย, ฯลฯ ที่ต้องดูแล) ผู้ซื้อจึงต้องแบกรับค่าส่วนกลางสูงทุกปีโดยเลี่ยงไม่ได้

สรุปแล้ว การเลือกคอนโดแบบไหนขึ้นอยู่กับ ลักษณะการใช้ชีวิตและความชอบส่วนบุคคล หากชอบความสงบ ไม่ชอบเบียดเสียด คอนโดโลว์ไรส์หรือโครงการยูนิตน้อยจะตอบโจทย์ แต่ถ้าเน้นเดินทางสะดวก อยากได้วิวสวยๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็ม ตึกสูงใจกลางเมืองก็เหมาะกว่า ส่วนขนาดห้องก็เลือกตามจำนวนผู้อยู่อาศัยและงบประมาณ ถ้าอยู่คนเดียวงบน้อย ห้องเล็กย่อมคุ้มค่า แต่ถ้ามีครอบครัวหรือ WFH บ่อยๆ ห้องใหญ่ย่อมดีกับคุณภาพชีวิต ควรชั่งน้ำหนักข้อดี-ข้อด้อยเหล่านี้ก่อนซื้อ เพื่อให้เงินที่จ่ายไปได้คอนโดที่คุ้มค่าและเหมาะกับเราที่สุด

ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นอกจากพื้นที่หลักที่กล่าวมา ยังมี ทำเลเด่นอื่นๆ ในตลาดคอนโดไทยที่ควรจับตา ซึ่งอาจไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ แต่ก็มีความต้องการเฉพาะด้านหรือมีปัจจัยหนุนบางประการ ดังต่อไปนี้

  • โซนอีสเทิร์นซีบอร์ด (Eastern Seaboard) นอกเหนือจากพัทยา: เช่น ศรีราชา (ชลบุรี) เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีชาวญี่ปุ่นมาทำงานเยอะ ทำให้ช่วงก่อนมีคอนโดสร้างใหม่หลายแห่งรองรับ กลุ่มผู้เช่าญี่ปุ่น โดยเฉพาะ (คอนโดบางแห่งในศรีราชาออกแบบเอาใจญี่ปุ่น เช่น อ่างอาบน้ำ, โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ, มีบริการเช่าห้องพร้อมแม่บ้านเหมือนเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์) ค่าเช่าในศรีราชาก่อนโควิดถือว่าสูงเมื่อเทียบราคาขาย เพราะ Supply จำกัดและมี Demand ต่างชาติ แม้ช่วงหลังคนญี่ปุ่นลดลงบ้างจากงานที่ย้ายไปเวียดนาม แต่ระยะยาวพื้นที่นี้ยังได้แรงหนุนจากโครงการ EEC ที่รัฐบาลผลักดัน ส่วน ระยอง (เมืองหลัก EEC อีกจังหวัด) ตลาดคอนโดยังเล็กแต่เริ่มเห็นการเติบโต โดยเฉพาะในเมืองมาบตาพุดหรือใกล้นิคมอุตสาหกรรมที่มีวิศวกรไทยและต่างชาติประจำอยู่ เมื่อ EEC มีความคืบหน้า โอกาสเติบโตของคอนโดในระยองก็จะมากขึ้น (รวมถึงทำเลใกล้ทะเลอย่างหาดแสงจันทร์ ศูนย์การค้านาวิกโยธิน มีคอนโดตากอากาศราคาย่อมเยาสำหรับคนระยองด้วย)
  • จังหวัดหัวเมืองใหญ่ภูมิภาคอื่น: เช่น ขอนแก่น, โคราช (นครราชสีมา), สงขลา (หาดใหญ่), อุดรธานี เป็นต้น เมืองเหล่านี้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภูมิภาค มีมหาวิทยาลัยใหญ่และนิคมอุตสาหกรรม ส่งผลให้ดีมานด์คอนโดเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทั้งนักลงทุนและคนท้องถิ่นรุ่นใหม่ เช่น ขอนแก่น มีโครงการคอนโดเกิดขึ้นใกล้มหาวิทยาลัยขอนแก่นและในเมืองหลายแห่ง รับนักศึกษากลุ่มมีกำลังและบุคลากรการแพทย์จากโรงพยาบาลใหญ่, โคราช มีโครงการคอนโดใกล้ Terminal 21 Korat และมหาวิทยาลัย, หาดใหญ่ มีคอนโดหลายโครงการใจกลางเมืองรองรับนักธุรกิจและนักศึกษาใกล้ ม.อ. เป็นต้น ราคาคอนโดในเมืองเหล่านี้มักไม่สูง (40,000-70,000 บาท/ตร.ม.) แต่ก็ต้องแข่งขันกับตลาดบ้านจัดสรรที่ดินยังถูก นักพัฒนาจึงโฟกัสจับกลุ่มเฉพาะ เช่น นักศึกษามหาวิทยาลัย (ทำห้องขนาดเล็กผ่อนถูกกว่าค่าเช่า) หรือคนทำงานที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิต อนาคต หากโครงการคมนาคมใหม่ๆ เช่น รถไฟความเร็วสูง เชื่อม กทม.-โคราช แล้วเสร็จ และเศรษฐกิจภูมิภาคโตขึ้น หัวเมืองเหล่านี้อาจเห็นความต้องการคอนโดเพิ่มขึ้นมาก
  • ทำเลย่านปริมณฑลกรุงเทพฯ: อย่าง นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร ที่มีรถไฟฟ้าขยายไปถึง เป็นตลาดคอนโดที่เติบโตเร็วมากช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา เช่น นนทบุรีตามแนว สายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) มีคอนโดเกิดขึ้นหนาแน่นโดยเฉพาะช่วงบางใหญ่-ตลาดบางซื่อ แต่เนื่องจากช่วงเปิดใหม่ ๆ ดีมานด์ยังน้อยทำให้เกิดปัญหาอุปทานล้นตลาด ราคาขายมือสองบางแห่งปรับลดลง ผู้ประกอบการจึงชะลอเปิดโครงการใหม่ ปัจจุบันราคาคอนโดโซนนี้ถือว่าถูกมาก (เริ่มไม่ถึงล้านก็มี) ดึงดูดคนงบน้อยให้ซื้อได้ง่าย สมุทรปราการ ตามแนว สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ก็คล้ายกัน มีคอนโดใหม่ผุดเยอะในช่วงเปิดรถไฟฟ้าแรกๆ ราคาขายปัจจุบันยังไม่สูงมาก (40,000-80,000 บาท/ตร.ม.) ทำให้เป็นโอกาสของผู้ซื้ออยู่อาศัยเองที่อยากได้คอนโดใกล้เมืองราคาจับต้องได้ ทั้งสองโซนนี้เมื่อเวลาผ่านไปมีชุมชนเติบโตมากขึ้น ดีมานด์จริงจะตามมา ช่วง 1-2 ปีหลังเริ่มเห็นอัตราดูดซับดีขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนควรเลือกโครงการที่มีจุดขายเด่น (เช่น ติดสถานีจริงๆ, ใกล้ห้างใหญ่, ใกล้สถานที่ราชการ/ศูนย์ราชการของจังหวัด) เพื่อสร้างความต่างและความต้องการในตัวโครงการ
  • เมืองท่องเที่ยวรองและแหล่งมรดกโลก: เช่น เขาใหญ่ (นครราชสีมา), เชียงราย, อยุธยา, กาญจนบุรี เป็นต้น พื้นที่เหล่านี้มีศักยภาพการท่องเที่ยวหรือเป็นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม/มหาวิทยาลัยบางส่วน ทำให้เริ่มมีคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กเกิดขึ้น เช่น เขาใหญ่มีคอนโดตากอากาศวิวภูเขาหลายแห่งเน้นขายคนกรุงเทพฯ ที่อยากมีบ้านพักตากอากาศไม่ไกลเมือง, เชียงรายมีคอนโดในตัวเมืองรองรับกลุ่มคนทำงานจีนที่เข้ามาลงทุนและนักศึกษา, อยุธยาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและนิคมอุตฯ ที่มีชาวญี่ปุ่นเยอะ ก็เริ่มมีคอนโดบ้างประปราย, กาญจนบุรีมีคอนโดริมน้ำในตัวเมืองเจาะกลุ่มคนพื้นที่รุ่นใหม่ เป็นต้น ตลาดเหล่านี้ยังเล็กและสภาพคล่องต่ำ แต่น่าจับตาในอนาคตหากการท่องเที่ยวขยายตัว คนท้องถิ่นร่ำรวยขึ้นและเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการอยู่อาศัยจากบ้านมาเป็นคอนโด

โดยสรุป ทำเลอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา อาจไม่ได้เป็นกระแสหลักแต่ก็มีความน่าสนใจเฉพาะตัว นักลงทุนอาจพิจารณากระจายการลงทุนไปยังบางพื้นที่ที่ ยังไม่แข่งขันสูง เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าในอนาคต อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาปัจจัยพื้นฐานของทำเลนั้นให้ชัด เช่น จำนวนประชากร, รายได้เฉลี่ย, แผนพัฒนาเมือง, อุปสงค์อุปทานที่อยู่อาศัย เป็นต้น ก่อนตัดสินใจเข้าไปลงทุนในทำเลใหม่ ๆ

คอนโดสำหรับขาย: แนวโน้มและคำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ

เมื่อตลาดคอนโดเริ่มกลับมาคึกคัก หลายคนที่อยากได้คอนโดอาจสงสัยว่า "ช่วงนี้ควรซื้อคอนโดเลยดีไหม?" หรือ "คอนโดแบบไหนคุ้มค่าน่าซื้อที่สุด?" การตัดสินใจซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อลงทุนในช่วงนี้ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้:

  • ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง - เลือกทำเลที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคุณ เช่น ใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน (ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล เป็นต้น) เพราะการอยู่คอนโดในเมืองคือการซื้อความสะดวกสบายของการเดินทาง หากทำเลดีก็ช่วยประหยัดเวลาชีวิตและค่าเดินทางได้มาก ตัวอย่างเช่น ถ้าทำงานย่านสาทร การเลือกคอนโดติดรถไฟฟ้า BTS ที่ใช้เวลา 5 นาทีถึงออฟฟิศ ย่อมดีกว่าคอนโดที่ถูกกว่าแต่ต้องฝ่ารถติด 1 ชั่วโมงทุกวัน นอกจากนี้อย่าลืมดูสภาพแวดล้อมย่านนั้นว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือไม่ เช่น ชอบออกกำลังกายควรใกล้สวนสาธารณะ หรือมีสัตว์เลี้ยงควรเลือกคอนโดที่อนุญาตสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
  • ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า - ต้องคำนวณ Rental Yield และความต้องการเช่าในพื้นที่ให้ถี่ถ้วน ซึ่งโดยทั่วไป yield ควรได้ไม่น้อยกว่า 4-5% ถึงจะคุ้มเสี่ยงและค่าเสียโอกาส เช่น ซื้อคอนโด 3 ล้านบาท ควรปล่อยเช่าได้ ~12,000 บาท/เดือนขึ้นไป (คิดเป็น ~4.8% ต่อปี) นอกจากนี้ควรศึกษา ตลาดเช่าเป้าหมาย ว่าเป็นใคร - ถ้าจะปล่อยชาวต่างชาติ ต้องเลือกทำเลที่ expat นิยมและห้องขนาดตามที่กลุ่มนั้นต้องการ (เช่น สุขุมวิทตอนกลาง expat ญี่ปุ่นนิยม, สีลม-สาทร expat ฝรั่งเยอะ เป็นต้น) หรือถ้าปล่อยนักศึกษา/วัยทำงานไทย ก็เลือกทำเลใกล้มหาวิทยาลัย/แหล่งงาน ค่าเช่าจะได้สม่ำเสมอ โปรแกรมการันตีค่าเช่า ที่ผู้ขายบางรายเสนอ (เช่น รับประกัน yield 5-7% ปีแรกๆ) ก็น่าสนใจแต่ต้องอ่านเงื่อนไขดีๆ เปรียบเทียบกับการปล่อยเช่าเองในตลาดด้วย
  • ซื้อเพื่อเก็งกำไรขายต่อ (Flipping) - ต้องเลือกคอนโดที่มีแนวโน้มราคาขึ้น อาจดูจากทำเลที่มีโครงการเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐในอนาคต หรือทำเลที่หายากขึ้นทุกที (เช่น ติดแม่น้ำ ติดทะเล แปลงสวยๆ) เพื่อให้เกิด capital gain ได้ง่าย ตัวอย่างเช่น ซื้อคอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้าสายที่จะเปิดปีหน้า ราคาช่วงพรีเซลอาจถูกกว่า พอสายเปิดจริงความต้องการเพิ่มราคาก็ปรับขึ้นได้ หรือเลือกโครงการของผู้พัฒนาที่มีชื่อเสียงในทำเลที่ดี โอกาสขายต่อได้กำไรก็มากกว่า ทั้งนี้ การเก็งกำไรระยะสั้นมีความเสี่ยงสูง เพราะถ้าตลาดไม่ดีอาจขายไม่ออก ต้องแบกต้นทุนไปนาน ดังนั้นหลายคนที่ชำนาญจะเลือก "ลงทุนแบบผสม" คือถ้าขายต่อไม่ได้ก็ปล่อยเช่ารอเวลาไปก่อน ไม่กู้เงินระยะสั้นมาซื้อเพื่อบีบให้ต้องขายไวเกินไป เป็นต้น

นอกจากนี้ ไม่ว่าซื้อด้วยวัตถุประสงค์ใด ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อขายคอนโด ต้องไม่มองข้าม ได้แก่ ค่าธรรมเนียมโอน 2%, ค่าจดจำนอง 1% (ถ้ามีการกู้), ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% กรณีขายออกก่อนถือครอง 5 ปี (หรือถ้าไม่เข้าเกณฑ์นั้นจะเป็นอากรแสตมป์ 0.5%), และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามเกณฑ์กรมที่ดิน (คิดตามปีถือครองและราคาประเมิน) ผู้ซื้อควรรับทราบว่าเมื่อขายต่อจะมีต้นทุนด้านภาษีเท่าใด โดยเฉพาะนักลงทุนที่ชอบขายไวใน 1-2 ปีแรกจะเจอภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ซึ่งไม่น้อยเลย ต้องเผื่อในแผนด้วย

สรุปสำหรับผู้ซื้อคอนโดยุคนี้: ถ้าซื้ออยู่เอง - เน้นเลือกทำเลและโครงการที่ทำให้คุณมีความสุขในชีวิตประจำวันมากที่สุด (เพราะคุณคือคนใช้มัน) ส่วนเรื่องราคา ถ้าคุณไหวและมีแผนระยะยาวก็ถือว่าซื้อ “ล็อกต้นทุน” ที่อยู่อาศัยในอนาคตไป ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มสูง การซื้อเร็วเพื่อได้ดอกเบี้ยคงที่ต่ำๆ ก็อาจดีกว่ารอ ส่วนถ้าซื้อเพื่อลงทุน - ให้คิดแบบนักธุรกิจ คำนวณทุกเม็ด ทั้งผลตอบแทนความเสี่ยง และมีแผนสำรองเผื่อกรณีแย่ที่สุดเสมอ เช่น ถ้าปล่อยเช่าไม่ได้ 6 เดือนจะทำอย่างไร, ถ้าดอกเบี้ยขึ้นต้องเติมเงินอีกเท่าไร ฯลฯ เพราะการลงทุนที่ดีควรยืนระยะได้แม้ตลาดผันผวน

สุดท้าย ช่วงเวลา ก็มีผล ตอนนี้ตลาดเริ่มฟื้นก็จริงแต่ยังมีสต็อกเหลือและผู้ประกอบการยังจัดโปรฯ อยู่พอสมควร ผู้ซื้อจึงยังต่อรองได้ ลองเปรียบเทียบหลายโครงการและ “อย่ากลัวที่จะถามหาส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษ” เพราะดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่ยินดีเจรจาเพื่อปิดการขายอยู่แล้ว

ซื้อคอนโดในกรุงเทพ: สิ่งที่ควรรู้และเคล็ดลับ

การซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ เป็นความฝันของคนเมืองหลายคน เพราะจะได้มีที่พักเป็นของตัวเองและลดเวลาเดินทางในชีวิตประจำวัน แต่กรุงเทพฯ มีตัวเลือกคอนโดนับหมื่นโครงการ การจะตัดสินใจเลือกจึงต้องมีหลักเกณฑ์และความรู้พอสมควร ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรรู้และเคล็ดลับสำหรับการเลือกซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ อย่างชาญฉลาด:

  • ทำเล (Location) คือหัวใจสำคัญ: กรุงเทพฯ การจราจรติดขัดมาก การอยู่ใกล้ที่ทำงานหรือรถไฟฟ้าจะเปลี่ยนคุณภาพชีวิตคุณได้อย่างมหาศาล ถ้างบประมาณจำกัด ให้ใช้วิธี “เลือกทำเลก่อนเลือกโครงการ” เช่น เจาะจงว่าจะเอาย่านที่ทำงาน (เช่น อโศก) หรือย่านที่ชอบ (เช่น สยาม, อารีย์) แล้วค่อยหาในย่านนั้นว่าโครงการไหนราคาพอซื้อได้ อย่าหลงกับโครงการสวยราคาถูกแต่ทำเลไกล เพราะคุณจะเสียทั้งเวลาและค่าเดินทางทุกวันในระยะยาว
  • เปรียบเทียบราคาและมูลค่าที่ได้รับ: คอนโดในกทม.แม้ต่างทำเลต่างแบรนด์แต่บางครั้งราคาสูสี ลองสำรวจดูหลายๆ ที่ในงบประมาณเดียวกันแล้วถามตัวเองว่า “โครงการไหนให้ชีวิตที่ดีกว่า?” เช่น คอนโด A แพงกว่า B 5 แสนบาท แต่เดินไป BTS ได้ ในขณะที่ B ต้องต่อวินทุกวัน แบบนี้ A อาจคุ้มกว่าเมื่อคิดระยะยาว หรือคอนโด C กับ D ราคาเท่ากัน แต่วัสดุมาตรฐาน/ส่วนกลางของ C ดีกว่า ก็เลือก C เพราะคุณภาพชีวิตดีกว่า เป็นต้น ปัจจุบันข้อมูลออนไลน์มีเยอะ เช่น รีวิวโครงการ, ความเห็นในพันทิป, เพจเฟซบุ๊กกลุ่มลูกบ้าน คุณสามารถค้นคว้าเพื่อช่วยตัดสินใจได้มาก
  • กู้เงินและความสามารถในการผ่อน: ก่อนเดินหน้าซื้อ ประเมินกำลังซื้อของตัวเองอย่างละเอียด ธนาคารไทยส่วนใหญ่ให้กู้ไม่เกิน 90-100% ของราคาประเมิน (ซึ่งบางทีต่ำกว่าราคาขายจริง) คุณควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10% และเตรียมเงินอีก ~5% สำหรับค่าใช้จ่ายวันโอน (ค่าธรรมเนียม, ค่าตกแต่งเพิ่มเติม, ฯลฯ) คำนวณค่างวดผ่อนต่อเดือนโดยประมาณ (มีเครื่องคำนวณออนไลน์มากมาย) ซึ่งไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือนเพื่อความสบายใจ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะคนจำนวนไม่น้อยซื้อคอนโดที่เกินตัวแล้วใช้ชีวิตลำบากจากภาระหนี้ คอนโดในกรุงเทพฯ มีหลายระดับราคา อย่าโลภกับของใหญ่เกินกำลัง ค่อยๆ ไต่ขึ้นทีหลังได้
  • ดูคุณภาพการก่อสร้างและนิติบุคคล: โครงการที่ดีไม่ใช่แค่สวยวันเปิดตัว แต่ต้องอยู่ดีไปนานๆ ควรศึกษา ชื่อเสียงผู้ประกอบการ รายใหญ่ๆ มักมาตรฐานดี ส่วนรายเล็กบางที่ก็สร้างดีมากแต่บางที่อาจมีปัญหาได้ ตรวจสอบวัสดุในห้องตัวอย่าง สเปควัสดุที่ให้มา และหาข้อมูลจากลูกบ้านโครงการเก่าๆ ของเจ้านั้น ดูด้วยว่า นิติบุคคล (ฝ่ายบริหารจัดการ) เป็นของบริษัทไหน มีชื่อเสียงหรือไม่ เพราะหลังอยู่ไป การบริหารส่วนกลางมีผลต่อคุณภาพชีวิต (เช่น ปล่อยให้คนภายนอกเข้าออกง่ายไป ความปลอดภัยต่ำ, สระว่ายน้ำสกปรกไม่เคยล้าง, ฯลฯ)
  • ช่วงเวลาและโปรโมชั่น: ตลาดปี 2567-2568 อย่างที่บอกยังมีโปรโมชั่นมากมาย เช่น ฟรีเฟอร์นิเจอร์, อยู่ฟรี 2 ปี, การันตีค่าเช่า, ฯลฯ และมักจัดในงานหรือช่วงไตรมาสท้ายๆ ของปี ผู้ซื้อควรติดตามข่าวสาร อย่ารีบร้อนเกินไปเพราะบางทีรออีกนิดจะได้ดีลที่ดีกว่า นอกจากนี้ คอนโดพร้อมอยู่ หลายแห่งขายราคาพิเศษ (เนื่องจากผู้ประกอบการอยากปิดโครงการ) ซึ่งบางทีคุ้มกว่าคอนโดผ่อนดาวน์ที่เปิดใหม่ เพราะเห็นห้องจริง สภาพแวดล้อมจริงแล้ว
  • ตรวจหนี้สินและภาระของโครงการ: กรณีซื้อคอนโดรีเซล (มือสอง) หรือคอนโดสร้างเสร็จใหม่ ต้องเช็กภาระหนี้ส่วนกลาง ที่เจ้าของเดิม/ผู้พัฒนายังค้างชำระหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบกับนิติฯ เรื่องค่าบำรุงรักษาอื่นๆ ถ้ามี เช่น ค่าที่จอดรถรายเดือน เป็นต้น เพื่อให้ทราบต้นทุนหลังซื้อ จะได้ไม่แปลกใจภายหลัง

เคล็ดลับเพิ่มเติม: ถ้าคุณเล็งโครงการไหนไว้ ลองแวะไปช่วงเวลาแตกต่างกันบ้าง เช่น วันธรรมดา-วันหยุด, กลางวัน-กลางคืน เพื่อดูบรรยากาศที่เปลี่ยนไป (บางคอนโดตอนกลางวันสงบ แต่กลางคืนมีบาร์ข้างล่างเสียงดัง เป็นต้น) และอาจลองพูดคุยกับ รปภ. หรือแม่บ้านเพื่อสอบถามข้อมูลภายในโครงการ (บ่อยครั้งพวกเขาจะเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นประจำ เช่น ลิฟต์เสียบ่อย น้ำรั่ว ซึ่งฝ่ายขายอาจไม่บอก) รวมถึง ตรวจสัญญาจะซื้อจะขาย อย่างรอบคอบ มีข้อสงสัยต้องถาม เช่น เงื่อนไขกรณีโอนช้า, ส่วนกลางปีแรกฟรีไหม, ที่จอดรถ fix หรือไม่ ฯลฯ

การซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ อาจดูซับซ้อนแต่หากคุณทำการบ้านและรู้จักประเมินความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริง คุณจะสามารถหาห้องที่ “ใช่” ทั้งในด้านทำเล ราคา และคุณภาพ ขอให้จำไว้ว่าคอนโดคือทั้งที่อยู่อาศัยและสินทรัพย์ในเวลาเดียวกัน จงเลือกด้วยสมองและหัวใจอย่างสมดุล แล้วคุณจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งนี้

คอนโดราคาถูก: ซื้ออย่างไรให้ได้ของดีคุ้มค่า

คำว่า “คอนโดราคาถูก” เป็นคำค้นหายอดนิยมเสมอ ผู้คนจำนวนมากอยากได้คอนโดในราคาย่อมเยาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ต้องไม่แลกมาด้วยคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ ในหัวข้อนี้เราจะพูดถึงวิธีการและคำแนะนำในการเลือกซื้อคอนโดราคาถูกอย่างคุ้มค่า รวมถึงข้อควรระวังต่างๆ

แหล่งหาคอนโดราคาถูก:

  1. คอนโดมือสอง (รีเซล) - ห้องชุดที่เจ้าของเดิมขายต่อ มักมีราคาต่ำกว่าโครงการใหม่ในละแวกเดียวกัน 10-30% (ขึ้นกับอายุอาคารและสภาพห้อง) ถือเป็นเป้าหมายอันดับต้นของคนหาของถูก ลองมองหาประกาศขายโดยเจ้าของ (FSBO) ตามเว็บไซต์หรือกลุ่มเฟซบุ๊ก ปัจจุบันมีคอนโดมือสองมากมายราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น ย่านลาดพร้าว-รามคำแหง, นนทบุรี-บางบัวทอง, สมุทรปราการ-แพรกษา เป็นต้น อย่างประกาศหนึ่งระบุคอนโดห้องสตูดิโอ 32 ตร.ม. ย่านลาดพร้าว ราคาแค่ 990,000 บาท (~30,900 บาท/ตร.ม.) ซึ่งถูกกว่าราคาตลาดมาก เห็นได้ว่าหากขยันค้นหา คุณจะพบดีลดีๆ เสมอ แต่ต้องรีบตัดสินใจเพราะห้องราคาดีจะไปไว
  2. คอนโดหลุดดาวน์ / โครงการใกล้ปิดการขาย - หากผู้จองเดิมกู้ไม่ผ่านหรือทิ้งดาวน์ ผู้ประกอบการมักนำยูนิตนั้นมาขายต่อราคาพิเศษ (เท่าทุนหรือบวกน้อย) เพื่อระบายของ รวมถึงห้องที่เหลือท้ายๆ ใกล้หมดโครงการก็มักมีโปรโมชันลดแลกแจกแถม ดังนั้นติดตามข่าวสารจากโครงการโดยตรงหรือสอบถามเซลส์ได้ นอกจากนี้งานมหกรรมบ้านและคอนโด หรือแคมเปญออนไลน์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ ก็มักมี ยูนิตโปรโมชั่น (บางทีลดเป็นล้าน) ควรสอดส่องไว้
  3. คอนโดในทำเลกำลังพัฒนา - หากคุณยอมเสี่ยงรับสภาพแวดล้อมที่ยังไม่เจริญมากเพื่อแลกราคาที่ถูกกว่า ก็เป็นแนวทางที่ได้ผล เช่น ซื้อคอนโดแนวรถไฟฟ้าสายที่ยังสร้างไม่เสร็จ (คนยังไม่อยากอยู่เยอะ ราคายังถูก) แล้วอีก 2-3 ปีข้างหน้ารถไฟฟ้าเปิด ราคาก็มีโอกาสขึ้น ซึ่งระหว่างนั้นคุณก็อยู่ไปก่อนในสภาพที่อาจยังไม่สะดวกมากนัก ตัวอย่างทำเลเช่น สายสีชมพู ช่วงมีนบุรี-บางบัวทอง ที่ตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จ มีคอนโดเปิดใหม่ราคาค่อนข้างถูกเริ่ม ~1.2-1.5 ล้าน การวางแผนแบบนี้ต้องอาศัยวิสัยทัศน์และความอดทน แต่ได้ของถูกแน่นอน

วิธีเลือกซื้อคอนโดราคาถูกให้คุ้มค่า:

  • ตรวจสอบสภาพอาคารและห้องพัก: ราคาถูกอาจมาพร้อมอาคารที่มีอายุ เช่น คอนโด 15-20 ปีขึ้นไป เราควรเช็กว่าตึกยังแข็งแรงดีหรือไม่ ลิฟต์ ระบบไฟฟ้า ท่อน้ำ ทะเบียนนิติบุคคลเรียบร้อยไหม (กรณีมือสอง) ห้องพักมีรอยร้าว น้ำรั่ว หรือปัญหาเชื้อราหรือไม่ บางครั้งซื้อถูกแต่ต้องซ่อมแซมเยอะก็ไม่คุ้ม
  • ประเมินสภาพแวดล้อม: ทำเลที่ถูกมักเป็นซอยลึก หรือนอกเมืองไปมาก ควรสำรวจว่ามีรถสาธารณะผ่านไหม ความปลอดภัยย่านนั้นเป็นอย่างไร (กลางคืนเปลี่ยวหรือไม่) มีร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ หรือเปล่า รวมถึงเพื่อนบ้านในอาคาร - คอนโดราคาถูกบางแห่งมีปัญหาเรื่องผู้อยู่อาศัยเช่น ปล่อยเช่ารายวันเสียงดัง, คนสูบบุหรี่ในอาคาร ฯลฯ ซึ่งอาจกระทบความเป็นอยู่ ควรสอบถามจากผู้พักอาศัยท่านอื่นหรือยามก่อน
  • คำนวณค่าใช้จ่ายรายเดือน: บางคนคิดว่าซื้อถูกคือจบ แต่จริงๆ มี ค่าส่วนกลาง ทุกเดือน/ปีที่ต้องจ่าย ถ้าอาคารเก่าอาจมีโอกาสเก็บ ค่าซ่อมบำรุงพิเศษ (Sinking Fund) เพิ่มเติมด้วย ดูว่าค่าส่วนกลางต่อ ตร.ม. เท่าไร และรวมออกมาเดือนละกี่บาท ไหวหรือไม่
  • เปรียบเทียบกับทางเลือกอื่น: บางครั้งคอนโดถูกมาก แต่อาจเจอห้องชุดโครงการบ้านเอื้ออาทรหรืออาคารพาณิชย์ที่ใช้เป็นที่พักได้ในราคาใกล้เคียงกัน หรืออาจเจออพาร์ตเมนต์ที่เช่าถูกกว่าเป็นทางเลือก ดังนั้นอย่าลืมพิจารณาว่าการเป็นเจ้าของคอนโดนั้นมีประโยชน์ที่คุณต้องการจริงๆ หรือไม่ เช่น เพื่อความภาคภูมิใจ, เพื่อปรับแต่งได้ตามใจ, ฯลฯ ถ้าสิ่งนั้นไม่สำคัญเท่าไร บางทีการเช่าอยู่ก็อาจยืดหยุ่นกว่า

ข้อควรระวัง:

  • คอนโดราคาถูกที่ “ถูกเกินไป” อาจมีเหตุผลซ่อนเร้น เช่น อาคารอยู่ในสภาพจะโดนเวนคืนที่ดิน, มีคดีความฟ้องร้องบริษัท, หรืออยู่ในพื้นที่น้ำท่วมบ่อย เป็นต้น ก่อนซื้อควรค้นข่าวชื่อโครงการ ดูประวัติต่างๆ ด้วย
  • ระวังกลโกงเช่น ประกาศขายถูกมากแต่พอไปดูแล้วไม่ตรงปก หรือพอสนใจจะซื้อจริงกลับบอกว่าต้องจ่ายเงินจองก้อนใหญ่ก่อนโดยยังไม่ทำสัญญา ควรทำธุรกรรมผ่านขั้นตอนปกติที่ปลอดภัย (ทำสัญญาจะซื้อจะขายระบุเงื่อนไขชัดเจน จ่ายเช็คหรือโอนเข้าบัญชีบริษัท/บัญชีผู้ขายที่ตรวจสอบได้)
  • คอนโดราคาถูกบางแห่งสร้างใหม่ราคาถูกก็จริง แต่ค่าใช้จ่ายตามมาสูง เช่น ระบบส่วนกลางใช้ไปไม่กี่ปีก็พังต้องซ่อมบ่อย หรือผนังห้องบางมากเสียสุขภาพจิต ซึ่งระยะยาวอาจไม่คุ้มกับเงินที่ประหยัดตอนซื้อ

สรุปคือ คอนโดถูกและดีมีอยู่จริง แต่ผู้ซื้อจะต้องขยันหาข้อมูลและตรวจสอบให้รอบด้าน อย่าด่วนตัดสินใจเพียงเพราะ “ราคาถูกมาก” จนมองข้ามปัจจัยอื่น ขอให้ยึดหลักว่าคอนโดนั้นต้องตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานของเราได้ก่อนราคาถูก เช่น อยู่แล้วปลอดภัย เดินทางไม่ลำบากเกินไป สภาพแวดล้อมโอเค จากนั้นค่อยมาดูเรื่องราคาและต่อรองให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุด วิธีนี้จะทำให้คุณได้ “คอนโดถูกและคุ้ม” สมใจ

คอนโดใกล้รถไฟฟ้า: ข้อดี-ข้อด้อยที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

ในยุคที่การเดินทางคือเรื่องสำคัญ “คอนโดใกล้รถไฟฟ้า” กลายเป็นทำเลทองที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะให้ความสะดวกสบายในการเดินทางอย่างยิ่ง คนเมืองยุคใหม่ทุกนาทีมีค่า การได้เดินจากที่พักถึงสถานีรถไฟฟ้าในไม่กี่ก้าวย่อมเป็นข้อได้เปรียบสูงสุด แต่แน่นอนว่าความสะดวกสบายนี้ต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น บทความของ DDproperty ชิ้นหนึ่งแนะนำให้ผู้ซื้อพิจารณา “ข้อดี-ข้อด้อยอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ” เพื่อให้เงินทุกบาทที่จ่ายไปคุ้มค่าที่สุด เรามาสรุปข้อดีและข้อด้อยหลักๆ ของคอนโดติด/ใกล้รถไฟฟ้ากัน:

ข้อดีของคอนโดใกล้รถไฟฟ้า:

  • เดินทางสะดวกและประหยัดเวลา - นี่คือหัวใจหลักเลย คุณสามารถตื่นสายขึ้นได้ เดินทางไปทำงานหรือนัดหมายต่างๆ ได้รวดเร็ว ไม่ต้องเผื่อเวลารถติดเป็นชั่วโมง ชีวิตง่ายขึ้นมากโดยเฉพาะในวันที่ฝนตกหรือเกิดอุบัติเหตุจราจร คุณก็แค่เดินขึ้นรถไฟฟ้าไม่ต้องหงุดหงิดกับถนน นอกจากนี้ยัง ประหยัดค่าเดินทาง เช่น ค่าน้ำมันหรือค่ารถแท็กซัส เพราะใช้ระบบรางแทน (แม้อาจมีค่าบีทีเอส/เอ็มอาร์ที แต่โดยมากก็ถูกกว่าค่าใช้รถส่วนตัว)
  • มูลค่าทรัพย์สินและสภาพคล่องสูง - คอนโดติดรถไฟฟ้าเป็นสินทรัพย์ที่ตลาดต้องการเสมอ แม้ในยุคตลาดซบเซา ก็ยังขาย/ปล่อยเช่าได้ง่ายกว่าคอนโดที่อยู่ไกล ทำให้มี สภาพคล่องสูง และ มูลค่าเพิ่มในตัว (Location Value) กล่าวคือ คุณอาจต้องซื้อแพงกว่าที่อื่น แต่เมื่อขายต่อก็มักขายได้ราคาดี เพราะทำเลใกล้รถไฟฟ้ามีคนหาอยู่ตลอด ยิ่งหากโครงการอยู่ใกล้สถานีระดับ 0-200 เมตร ยิ่งถือเป็น Rare Item ที่นักลงทุนและผู้เช่าตามหา
  • วิวสูงโปร่งและสิ่งอำนวยความสะดวกครบ - คอนโดติดรถไฟฟ้ามักเป็นตึกสูงหลายชั้น เพราะผู้พัฒนาจะสร้างให้คุ้มค่าที่ดิน ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยได้ ชมวิวเมืองที่สวยงาม จากชั้นสูงๆ (ต่างจากคอนโดซอยลึกเตี้ยๆ ที่วิวอาจติดตึกข้างๆ) นอกจากนี้ทำเลใกล้สถานีมักเป็นย่านพาณิชย์หรือชุมชนเมือง มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ Community Mall อยู่รอบด้าน คุณสามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวเลยก็ยังได้
  • เหมาะกับการใช้ชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ - คนรุ่นใหม่ให้ค่ากับเวลาและประสบการณ์มากกว่าพื้นที่กว้างใหญ่ ดังนั้นการอยู่คอนโดเล็กๆ แต่เดินทางสะดวก ไปไหนมาไหนง่าย ใกล้แหล่งแฮงเอาท์ จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันหลายคนขายบ้านชานเมืองแล้วย้ายมาอยู่คอนโดติดรถไฟฟ้าเพราะเบื่อรถติด อยากมีเวลาชีวิตเพิ่ม และคอนโดแนวนี้ก็มักออกแบบทันสมัยเข้า concept คนรุ่นใหม่อยู่แล้ว

ข้อด้อยของคอนโดใกล้รถไฟฟ้า:

  • ราคาสูงกว่าและพื้นที่ห้องเล็กกว่า - ข้อนี้ชัดเจนที่สุด ทำเลดีทำให้ราคาที่ดินแพง ผู้พัฒนาต้องตั้งราคาขายสูงและอาจลดขนาดห้องให้เล็กลงเพื่อให้ราคาต่อยูนิตเอื้อมถึง บางโครงการใกล้รถไฟฟ้าที่ดินเล็ก ห้องสตูดิโออาจแค่ 21-25 ตร.ม. ซึ่งเล็กมาก และยังขายตารางเมตรละหลายแสนบาท เช่น 25 ตร.ม. 4 ล้านบาท (~160k/ตร.ม.) เป็นต้น นอกจากนี้หลายโครงการที่ที่ดินแพงจะมีอัตราส่วนที่จอดรถต่ำ (บางแห่งจอดได้ 40% ของยูนิต) หมายความว่าถ้าคุณมีรถ คุณอาจไม่ได้ที่จอดประจำ ต้องแย่งจอดหรือเช่าที่เพิ่มข้างนอก ซึ่งเป็นข้อด้อยที่ต้องพิจารณา (บางคนแก้โดยเลือกไม่มีรถ ใช้ขนส่งสาธารณะล้วนก็ต้องโอเคกับไลฟ์สไตล์แบบนั้น)
  • ความหนาแน่นและความสงบ - คอนโดติดรถไฟฟ้ามักอยู่ติดถนนหลักที่มีผู้คนพลุกพล่าน เสียงจราจรหรือเสียงจากสถานีรถไฟฟ้าอาจเล็ดลอดเข้ามาได้โดยเฉพาะชั้นต่ำๆ นอกจากนี้ด้วยจำนวนยูนิตมากและพื้นที่โครงการจำกัด ทำให้ มีพื้นที่สีเขียวน้อย เช่น สวนหย่อมหรือสนามเด็กเล่นอาจไม่มีเลย หรือเหลือเพียง pocket garden เล็กๆ หากคุณเป็นคนรักสงบหรือชอบความร่มรื่น คอนโดแนวนี้อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไร
  • ค่าครองชีพโดยรอบสูงกว่า - ทำเลใกล้รถไฟฟ้ามักอยู่ในย่านธุรกิจหรือชุมชนเมือง ค่าครองชีพ (อาหารการกิน ฯลฯ) จะสูงกว่าซอยลึกหรือชานเมือง เช่น ร้านอาหารตามสั่งจานละ 60-70 บาทเทียบกับในซอยอาจ 40-50 บาท การเรียกช่างซ่อมต่างๆ ก็มักคิดราคาคนเมืองสูง เป็นต้น อย่างไรก็ดี หลายคนยอมจ่ายแลกความสะดวก หากรับได้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ควรเข้าใจภาพรวมนี้
  • พื้นที่โครงการจำกัด - คอนโดติดรถไฟฟ้าบางแห่งที่ดินเล็กมาก ไม่มีแม้แต่พื้นที่ drop-off (จุดรับส่งรถ) ในโครงการด้วยซ้ำ บ้างต้องใช้ที่จอดร่วมกับห้างหรืออาคารข้างเคียง หรือไม่มีที่กลับรถ ต้องไปกลับในซอยลึก เป็นต้น รายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้อาจสร้างความไม่สะดวกให้ผู้อยู่อาศัยได้ ต้องพิจารณาเผื่อไว้

โดยสรุป คอนโดใกล้รถไฟฟ้า มีข้อดีหลักคือความสะดวกและคุณค่าของทำเล ขณะที่ข้อด้อยหลักคือราคาสูงและพื้นที่จำกัด หากคุณให้ความสำคัญกับการเดินทางและชีวิตใจกลางเมืองก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคุณ แต่ถ้าคุณต้องการพื้นที่เยอะ ชอบความสงบ ราคาคอนโดแนวนี้อาจไม่คุ้มที่จะจ่าย สุดท้ายก่อนตัดสินใจซื้อควรชั่งน้ำหนักกับสิ่งที่คุณให้คุณค่า เช่น คุณโอเคไหมถ้าต้องอยู่ห้องเล็กลงแต่ได้เดินทางสบาย? คุณพร้อมไหมที่จะจ่ายแพงขึ้นเพื่อวิวสวยและ location ดี? รวมถึงเช็กข้อจำกัดโครงการ เช่น ที่จอดรถ, เสียงดัง เพื่อจะได้ไม่มีเซอร์ไพรส์ทีหลัง

เกร็ดเล็กน้อย: หลายคนคิดว่าคอนโดติดสถานีรถไฟฟ้าคือดีหมด แต่จริงๆ ควรดูด้วยว่าติดสถานีอะไร? เพราะบางสายคนแน่นมาก (เช่น ช่วงสุขุมวิท) อาจขึ้นรถไฟฟ้ายากในชั่วโมงเร่งด่วน, หรือบางสถานีกำลังจะมีตึกสูงบังวิวคอนโดเราหรือไม่, รวมถึงสภาพแวดล้อมใต้สถานี (มีตลาด? มีทางเดินปลอดภัยไหม?) เป็นต้น รายละเอียดเหล่านี้ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตเช่นกัน

ตลาดคอนโดไทยในปี 2567-2568 กำลังปรับตัวฟื้นหลังช่วงชะลอตัว โดยมีเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต พัทยา สมุย มาแรงตามการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ก็เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว แม้ยังมีสต็อกคงค้างให้ระบาย สำหรับผู้ซื้อยุคนี้ถือว่า เป็นโอกาสที่ดี เพราะยังมีโปรโมชั่นและตัวเลือกมาก ให้สามารถเลือกสิ่งที่ตรงใจและคุ้มค่าที่สุดได้ บทความนี้ได้ครอบคลุมตั้งแต่ภาพรวมตลาด แนวโน้มราคาทำเลต่างๆ Buyer Persona หลัก และเคล็ดลับการเลือกซื้อคอนโดในแง่มุมต่างๆ หวังว่าผู้อ่านจะได้รับความรู้และข้อมูลเชิงลึกครบถ้วน เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการซื้อหรือลงทุนคอนโดได้อย่างมั่นใจในช่วงปี 2567-2568 นี้

Loading...
สมัครรับอีเมลอัพเดทข่าว